List of content

ถอดบทเรียนคดีฉ้อโกงการลงทุน แห่งปี 2022 สูญเสียมูลค่ากว่าพันล้าน


ถอดบทเรียนคดีฉ้อโกงการลงทุน แห่งปี 2022 สูญเสียมูลค่ากว่าพันล้าน

ในอดีตจนถึงปัจจุบัน กลโกงทุกรูปแบบยังคงอยู่ไมได้หายไปไหนแต่กลโกงปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย และทุกวันนี้เห็นได้ชัดเลยว่าเรากำลังเผชิญกับกลโกงในรูปแบบต่าง ๆ โดยผ่านคำโฆษณาเกินจริง อย่าง เพียงลงทุนกับเราคุณก็จะได้ผลตอบแทนทันที หรือผลตอบแทนที่งดงาม ซึ่งคำโฆษณาพวกนี้อยู่กับคุณมาโดยตลอด ผ่านการบอกปากต่อปาก วิทยุ อินเทอร์เน็ต และโซเซียลมีเดีย บางครั้งเราก็อยากเอาชนะกลโกง คิดว่ารู้ทันกลโกงอยู่เสมอ

ถึงอย่างนั้นประเทศไทยจะมีข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องการฉ้อโกงมาตลอด โดยเฉพาะเรื่องของการลงทุนในตลาดต่าง ๆ แต่ทว่าคนส่วนมากก็เลือกที่จะเชื่อ ในวันนี้ทีมงาน FXbrokerscam จึงได้รวบรวมคดีโกงในไทยอย่าง Forex3D นัตตี้ และ P Miner มาให้ทุกคนได้อ่านเป็นกรณีศึกษากันครับ จะมีข้อมูลอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันเลยครับ

 

เป้ P Miner

ถอนบทเรียนคดีฉ้อโกงการลงทุน แห่งปี 2022 สูญเสียมูลค่ากว่าพันล้าน

นายเป้ กิติกร อินต๊ะ คือ ซีอีโอเจ้าของ บริษัท พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป (P miner Cryptocurrency) มีประวัติการศึกษาที่เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฏหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา และมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้เริ่มต้นจนทะเบียนห้างหุ้นส่วน พีมายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป ด้วยเงินทุนมากถึง 500,000 บาท เมื่อปี 2562

ในปี 2565 ห้างหุ้นส่วน พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป ได้เติบโตอย่างรวดเร็วและทำการจดทะเบียนบริษัท ด้วยเงินทุนจดทะเบียนอีก 500,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการรับจ้าง รับจดทะเบียนชื่อโดเมน และออกแบบเว็บไซต์

โดยคดีของนายเป้ มีลักษณะดังนี้

- เปิดกลุ่มวีไอพี ให้คนนำเงินมาลงทุน 1 ล้านบาท ทั้งหมด 300 คน

- เป็นการฝากเงินเทรดเหรียญคริปโตและทำเหมืองคริปโต

- ให้ปันผลตั้งแต่ 10-15%

- สุดท้ายผู้ร่วมลงทุนกลับไม่ได้เงินคืน

ล่าสุด สำนักงานป้องกันและปราบปรามฟอกเงิน ได้เข้าตรวจค้น และยึดทรัพย์ ของนายเป้ PMiner พร้อมทั้ง ประกาศรางวัลเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท สำหรับเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุม

มูลค่าความเสียหาย: คดีนี้รวมผู้เสียหายกว่า 1,300 คน และ ก่อให้เกิดความเสียหาย 1,700 ล้านบาท

 

Forex3D

ถอนบทเรียนคดีฉ้อโกงการลงทุน แห่งปี 2022 สูญเสียมูลค่ากว่าพันล้าน

Forex 3D ก่อตั้งในปี 2558 โดย RMS Famelia เจ้าของบริษัทชื่อ นายอภิรักษ์ โกฎธิ เป็นบริษัทให้คำปรึกษาทางธุรกิจการเงิน โดยการระดมทุนซื้อขายเงินต่างประเทศ เน้นการอ้างถึงการทำกำไร/ผลตอบแทนต่อเดือนในสัดส่วน 60/40 (เจ้าของเงินทุนจะได้รับ 60 โบรกเกอร์จะได้รับ 40) และให้สมาชิกหาเพื่อนมาร่วมทีมซึ่งเหมือนกับการแชร์ลูกโซ่

โดยกลไกการแชร์ลูกโซ่ของคดีนี้มีลักษณะใกล้เคียงกับคดีอื่น ๆ คือ

- เริ่มต้นที่ชักชวนลงทุน

- อ้างผลตอบแทนสูง 10-15% ทุกเดือน  

- แนะนำคนรู้จักเข้ามา ได้ผลตอบแทนเพิ่ม 5% ของเงินปันผล

- สมาชิกมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นเงินลงทุนที่มีมูลค่าสูง

- จ่ายเงินปันผลช้าหรือไม่จ่าย ทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมหาศาล

คดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D นับว่าเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการ Forex ไทยอย่างมาก เพราะมีบุลคลที่มีชื่อเสียงหลายคนร่วมกระบวนการ หนึ่งในนั้นมีชื่อของ "พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช" ดาราสาวชื่อดัง พร้อมคนในครอบครัว ถูกดำเนินคดีใน 3 ข้อหา คือ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน

มูลค่าความเสียหาย: คดีนี้รวมผู้เสียหายกว่า 9,824 คน และมีการกู้ยืมเงินรวมกัน ก่อให้เกิดความเสียหาย 2,489 ล้านบาท 

 

นัตตี้

ถอนบทเรียนคดีฉ้อโกงการลงทุน แห่งปี 2022 สูญเสียมูลค่ากว่าพันล้าน

นัตตี้ นัทธมณ คงจักร์ เกิดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2536 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารการแสดง มหาวิทยาลัยรังสิต โดยแรกเริ่มโด่งดังมาจากการเป็นเน็ตไอดอลบนโซเชียลแคม และต่อมาได้ไปเดบิวต์เป็นศิลปินที่เกาหลี ภายใต้สังกัด Dream Cinema โดยมี 2 ผลงานเพลง 2 เพลง So What และ I’m Gonna Catch Ya

ช่วงปี พ.ศ. 2557 นัตตี้และแม่ เคยออกรายการตีสิบ โดยเล่าว่าเมื่อก่อนเคยทำธุรกิจคาราโอเกะ มีรายได้ต่อคืน 30,000-200,000 บาท ตกเดือนละ 2 ล้านบาททุกเดือน ในช่วงที่นัตตี้เกิดมา มีพี่เลี้ยงมาแล้ว 22 คน ณ ตอนนั้นค่อนข้างมีฐานะ และคิดว่าจะต้องทำงานเก็บเงินจนเห็นเงินในบัญชีให้ได้ 50-100 ล้านบาท แต่ก็ไม่เคยถึงเพราะนำไปเล่นหุ้นหรือไม่ก็ให้คนยืมหมด

ต่อมา นัตตี้ได้ผันตัวมาเป็น Youtuber ชื่อช่อง “Nutty’s Diary” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 8.46 แสนคน โดยคอนเทนต์ในช่องประกอบไปด้วย วาไรตี้ความบันเทิงทั้งร้อง เล่น เต้น เที่ยว รวมถึงเต้น cover เพลงเกาหลี

หลังจากนั้น นัตตี้ได้ใช้ชื่อเสียงของตน อ้างว่ารู้จักดาราหลายคน เพื่อให้คนหลงเชื่อและทำการชักชวนคนอื่น ๆ มาลงทุน โดยวิธีการรับฝากเทรดหุ้นของนัตตี้ คือ

- ชักชวนให้นักลงทุนนำเงินมาฝากเทรด

- จะได้รับผลกำไรทุก 30 วัน เรทกำไรที่ได้จะขึ้นอยู่กับการทำสัญญา

- ได้กำไรมากกว่า 25% ไปจนถึง 35% ของเงินทุนในทุกเดือน

- การฝากขั้นต่ำอยู่ที่ 5,000 บาท และสูงสุดอยู่ที่ 5 ล้านบาท ต่อ 1 บิล

มักอ้างว่าได้กำไรสูงในเวลาอันสั้น เช่น ผ่านไป 16 นาที ได้กำไร 3,000 บาท , ผ่านไป 15 นาที ก็อาจจะได้กำไร 1 แสนบาทได้ ทำให้มีคนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก

ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมานี้ มีผู้เสียหายกว่า 30 คน เข้ามาแจ้งความให้ดำเนินการจับกุมและออกตามล่า โดยมีรางวัลนำจับให้ 2-5 ล้าน 

มูลค่าความเสียหาย: คดีนี้รวมผู้เสียหายกว่า 6,000 คน และก่อให้เกิดความเสียหาย 2,000 ล้านบาท

 

ถอดบทเรียนจากกลโกง

ส่วนใหญ่นักลงทุนที่พลาดจากการตกเป็นเหยื่อล้วนมาจากความโลภ ข้อเสนอที่น่าดึงดูด และหวังผลตอบแทนสูง ๆ ซึ่งสิ่งแรกที่ควรตระหนักคือ ไม่มีการลงทุนไหน ๆ สามารถการันตีผลตอบแทนได้ โดยเฉพาะผลตอบแทนสูงในระยะเวลาอันสั้น ฉะนั้นหากมีการลงทุนใดที่การันตีให้ผลตอบแทนที่สูงในระยะเวลาอันสั้น ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนเลยว่า การลงทุนนั้นเข้าข่ายหลอกลวง อย่างในกรณีข้างต้น ถึงแม้เราจะเชื่อใจคนที่ชักชวนมาลงทุนมากแค่ไหน นำเงินไปฝากให้บุคลคลนั้นลงทุนให้ แต่สุดท้ายแล้วหากการโกงเกิดขึ้นก็กลายเป็นความผิดพลาดของเราที่เลือกจะนำเงินไปฝากเทรดอยู่ดี ดังนั้นสิ่งที่เราควรระมัดระวังก่อนลงทุน คือ

1 .ไม่โลภ และตั้งสติอยู่เสมอ : ความโลภอยากได้ มักจะทำให้ขาดการยั้งคิดและถูกหลอกง่าย เพราะฉะนั้นต้องคิดอยู่เสมอว่า การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงมากในเวลาสั้นๆ นั้นไม่มีอยู่จริง

2 .ไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ และกล้าปฏิเสธ : แม้จะเป็นคนรู้จักใกล้ตัวที่เชื่อใจมากแค่ไหน หรือแม้แต่อ้างว่ามาจากหน่วยงานสถาบันการเงิน มาชักชวนให้ลงทุนที่ให้ผลตอบแทนเกินจริง ก็ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัวไป ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ

3. ตรวจสอบก่อนตัดสินใจ : แน่นอนว่ามิจฉาชีพมักมีวีธีพูดที่ทำให้เราคล้อยตาม และต้องตัดสินใจทันที แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร ต้องไปตรวจสอบข้อมูลว่ามีใบอนุญาตกับทาง ธปท. และ กลต. หรือไม่ ผ่านทางเว็บไซต์ BOT License Check และ SEC Check First

4. ติดตามข่าวสารอยู่เสมอ : การติดตามข่าวสาร โดยเฉพาะการเตือนภัย จะช่วยให้รู้เท่าทันวิธีการหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ และไม่ทำให้ตกเป็นเหยื่อกลโกง นอกจากนี้ควรหาความรู้ทางด้านการเงินและการลงทุนเพิ่มเติม เพราะความรู้ความเข้าใจจะเป็นเกาะป้องกันภัยได้เป็นอย่างดี

 

แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วเราต่างก็มีความโลภ ถือเป็นเรื่องธรรมดาในมนุษย์ เพียงแต่ความโลภที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง และความเสี่ยงที่เราสามารถยอมรับได้นั้น ย่อมดีกว่าความโลภที่เราไม่รู้ว่ากำลังลงทุนกับอะไร ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทเราควรสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง โดยการศึกษาหาความรู้ทางด้านการลงทุนนั้น ๆ และตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบุคคลที่เราต้องการให้ดูแลพอร์ตการลงทุนเป็นอย่างดี

------------------------------------------------------------------------

สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้ 

อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกที่นี่

อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM