ค่าเงินแข็ง ค่าเงินอ่อน คำ ๆ นี้เราคงจะได้ยินกันบ่อย ถ้าหากเราเป็นนักลงทุนที่กำลังลงทุนอยู่ในตลาดค่าเงิน แต่จริง ๆ แล้วค่าเงินแข็ง หรือค่าเงินอ่อน มีความหมายอย่างไร เกิดจากสาเหตุอะไร และส่งผลอย่างไรบ้าง เราจะมาเรียนรู้กันในวันนี้ครับ
เงินแข็งค่า หรืออ่อนค่า คือ สภาวะอย่างหนึ่งของสกุลเงิน ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดสภาวะทั้ง 2 นี้ คือ อุปสงค์และอุปทานเป็นหลักครับ
สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดสภาวะทั้ง 2 นี้ คือ อุปสงค์และอุปทานเป็นหลักครับ แต่อย่างไรก็ดี เราสามารถแบ่งปัจจัยที่ทำให้เกิการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินได้ดังนี้
ดุลการค่าของประเทศมีความเกี่ยวข้องกับค่าเงินโดยตรง ยกตัวอย่างเช่น หากประเทศไทยมีมูลค่าของการส่งออกมากกว่าการนำเข้า นั้นหมายความว่า จะทำให้เงินทุนไหลเข้ามาภายในประเทศ และเงินทุนเหล่านี้เป็นสกุลเงินอื่น ๆ ดังนั้น จึงต้องเปลี่ยนสกุลเงินเหล่านี้ให้เป็นสกุลเงินบาท ความต้องการเงินบาทจึงมีเพิ่มมากขึ้น และมีความต้องการมากขึ้น เงินบาทก็จะมีมูลค่ามากขึ้น หรือแข็งค่าขึ้นนั่นเองครับ
อัตราดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่มีส่วนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าของค่าเงินนั้น ๆ เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่กระทบต่อการตัดสินใจของนักลงทุน หากประเทศใด ๆ มีการปรับอัตราดอกเบี้ยน้อย นักลงทุนก็จะย้ายเงินทุนออก เพื่อไปลงทุนในประเทศที่มีการจ่ายอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า ดังนั้น เมื่อมีการโยกย้ายเงินทุนออกหรือเข้ามาในประเทศ ก็จะส่งผลต่อคู่สกุลเงินเช่นกัน ตัวอย่างคือ ประเทศไทยมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสหรัฐอเมริกา นักลงทุนจึงย้ายเงินดอลลาร์ของสหรัฐอเมริกา มาเปลี่ยนเป็นเงินบาทไทยเพราะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า เงินบาทไทยเลยเป็นที่ต้องการมากขึ้น และมีมูลค่ามากขึ้นหรือแข็งค่าขึ้นครับ
สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่กระทบโดยตรง เพราะธนาคารจะคอยออกนโยบายที่ใช้ควบคุมอัตราเงินเฟ้อ หรืออัตราเงินฝืดภายในประเทศ เช่น หากธนาคารกลางเห็นว่า เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูงเกินไป ก็จะกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องตามกฎหมายเพิ่มขึ้น ทำให้เงินที่ธนาคารพาณิชย์สามารถปล่อยกู้ได้มีจำนวนลดลง ส่งผลให้ปริมาณเงินในประเทศลดลงตาม จึงเปรียบเสมือนกับการลดอุปทาน หรือปริมาณของเงิน ทำให้ค่าเงินของประเทศนั้น ๆ มีแนวโน้มที่จะแข็งขึ้น
นอกเหนือจากปัจจัยข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อค่าเงิน เช่น ความมั่นคงทางการเมือง ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ภัยภิบัติทางธรรมชาติ และเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ เป็นต้น
การนำเข้าส่งออกอย่างที่กล่าวไปข้างต้น สิ่งนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับค่าเงินแข็งหรืออ่อน ยกตัวอย่างเช่น ค่าเงินบาทมีการแข็งค่ามากขึ้นโดยปกติแล้ว สินค้า 1 ชิ้น สามารถจำหน่วยให้ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ 1 ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินตอนนั้นมีค่า 1 ดอลลาร์สหรัฐ มีค่าเท่ากับ 35 บาท
แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป สินค้าราคา 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่าเดิม แต่มูลค่าของเงินบาทได้แข็งค่าขึ้น คือ 1 ดอลลาร์สหรัฐมีค่าเท่ากับ 34 บาท ดังนั้น จะทำให้ผู้ส่งออกได้กำไรน้อยลง 1 บาท เป็นต้น
ค่าเงินแข็งหรืออ่อนจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น นักท่องเที่ยวชาวอเมริกา มองเห็นแล้วว่าเงินบาทมีการอ่อนค่าอย่างมากเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ นักท่องเที่ยวจึงนิยมที่จะมาเที่ยวประเทศไทย เพราะเงินดอลลาร์สหรัฐของตน สามารถแลกเป็นเงินบาทได้มากขึ้น
ทั้งหมดนี้ คือ สาเหตุและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากค่าเงินที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ
------------------------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้
อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกที่นี่
อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM