ในโลกของการลงทุนที่มีทั้งความผันผวน โอกาส กำไร และขาดทุน ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) จึงถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่นักลงทุนเลือกเข้ามาลงทุนเพื่อบริหารความเสี่ยงกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง หลายคนอาจจะสงสัยว่าตราสารอนุพันธ์สามารถทำกำไรได้ทั้งสองสภาวะตลาดจริงไหม ? วันนี้ผมจะพาไปไขข้อสงสัยพร้อมกับเจาะลึกว่า ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) คืออะไร ? และเสน่ห์ของการลงทุนในตลาดนี้คืออะไรกันในบทความนี้ครับ
ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) คืออะไร ? |
ตราสารอนุพันธ์ หรือ Derivative คือ ตราสารทางการเงินที่มีมูลค่าอ้างอิงอยู่กับสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่ง โดยมูลค่าของตราสารนั้นก็จะขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่ถูกอ้างอิง เช่น ตราสารหนี้ ตราสารทุน สินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนของคู่สกุลเงินต่าง ๆ เป็นต้น
ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) มีกี่ประเภท ? |
ตราสารอนุพันธ์จะสามารถแบ่งเป็น 4 ประเภท ตามลักษณะและภาระผูกพันของแต่ละสัญญาโดยจะแบ่งได้ ดังนี้
สัญญาฟอร์เวิร์ด (Forward) คือ สัญญาที่ทำการซื้อ - ขายสินค้าที่ทั้ง 2 ฝ่ายทำการตกลงกัน ซึ่ง Forward จะเป็นสัญญาประเภทแรก ๆ ของตราสารอนุพันธ์ ทำให้ Forward จะมีความคล้ายคลึงกับ Futures แต่จะมีข้อแตกต่างตรงที่ Futures จะเป็นสัญญาที่มีความเป็นทางการมากกว่าและอยู่ภายใต้หน่วยงานกำกับดูแลครับ
สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) คือ สัญญาการซื้อขายประเภทหนึ่ง โดยลักษณะพิเศษของสัญญาประเภทนี้คือผู้ซื้อและผู้ขายจะตกลงซื้อ - ขาย สินทรัพย์ที่อ้างอิงภายในระยะเวลาและราคาที่กำหนด โดยฝั่งผู้ซื้อสัญญาจะมีสถานะซื้อ (Long Position) ส่วนฝั่งผู้ขายสัญญาจะมีสถานะขาย (Short Position) โดยสัญญา Futures จะมีความเป็นทางการและมีรูปแบบสัญญาที่ค่อนข้างแน่นอน
สัญญาสวอป (Swap) คือ สัญญาทางการเงิน พูดง่าย ๆ ก็คือ เอาเงินมาแลกเปลี่ยนกันนั่นเองครับ โดยการทำสัญญาประเภทนี้คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่าย จะทำการแลกเปลี่ยนกระแสเงินสดหรือผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ทำการอ้างอิงกันในอนาคต สัญญา Swap ที่นิยมใช้ในปัจจุบันจะแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
Interest Rate Swap คือ สัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย ที่ทั้ง 2 ฝั่งจะจ่ายอัตราดอกเบี้ยในรูปแบบที่ต่างกัน คือ ฝ่ายหนึ่งจะจ่ายอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่แต่จะได้รับอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว และอีกฝ่ายจะจ่ายดอกเบี้ยแบบลอยตัวและจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราคงที่
Currency Swap คือ สัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยจะทำกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินทั้ง 2 สกุลเงิน หรือทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนครับ
สัญญาออปชัน (Option) หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ “สัญญาสิทธิ” เป็นสัญญาที่ผู้ซื้อจะได้รับสิทธิในการซื้อ - ขาย สินทรัพย์ที่อ้างอิงตามราคาที่ได้ทำการกำหนดไว้ล่วงหน้าครับ โดยสัญญาประเภทนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
Call Option คือ สิทธิในการซื้อ
Put Option คือ สิทธิในการขาย
ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) ซื้อขายผ่านช่องทางไหนได้บ้าง ? |
ตราสารอนุพันธ์ที่ซื้อขายกันทั่วโลกในปัจจุบันจะมี 4 ประเภทใหญ่ ๆ ตามที่กล่าวไปข้างต้นครับ แต่สำหรับในประเทศไทยของเรานั้นการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า เราจะดำเนินการผ่านตลาด TFEX ซึ่งตลาด TFEX ถือเป็นศูนย์กลางการซื้อขายสัญญาประเภท Futures และ Option โดย TFEX จะอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต นั่นเองครับ
นอกเหนือจากที่กล่าวมานั้น ก็ยังมีการซื้อขายตราสารอนุพันธ์บางประเภทที่ไม่สามารถซื้อ-ขายใน TFEX ได้ เช่น DFDs และ Rolling Spot Forex เป็นต้น การซื้อขายตราสารประเภทนี้สามารถซื้อขายผ่านโบรกต่างประเทศที่ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศนั้น ๆ ได้ แต่การซื้อ - ขายผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศก็มีความเสี่ยงที่สูงมากเช่นกัน เนื่องจากไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายในประเทศไทย
ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลงจริงไหม ? |
ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) สามารถทำกำไรได้ทั้งในภาวะที่ตลาดเป็นขาขึ้นและขาลงจริงครับ ผมจะขอยกตัวอย่าง การทำกำไรจากตลาดทั้งภาวะขาขึ้นและขาลง ดังนี้
ตัวอย่าง การทำกำไรจากตราสารอนุพันธ์ (Derivative) ในตลาดขาขึ้น
Long Futures : ซื้อสัญญา Futures ในราคาที่ต่ำ และทำการขายเมื่อสินทรัพย์ที่ทำการอ้างอิงในสัญญาปรับตัวสูงขึ้น
ตัวอย่าง การทำกำไรจากตราสารอนุพันธ์ (Derivative) ในตลาดขาลง
Short Futures : ขายสัญญา Futures ในอัตราที่สูง และซื้อกลับในราคาที่ต่ำลงเมื่อสินทรัพย์ที่อ้างอิงในสัญญาปรับตัวลง
ทำไมตราสารอนุพันธ์ (Derivative) ถึงน่าลงทุน ? |
ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) มีความน่าสนใจหลายอย่าง ดังนี้
ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) สามารถใช้ Leverage ในการลงทุนได้ นักลงทุนจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องของเงินลงทุน แม้คุณจะมีเงินลงทุนต่ำก็สามารถลงทุนในตราสารอนุพันธ์ได้ครับ
ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) สามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้น - ขาลง ทำให้แม้ในสภาวะที่ตลาดเกิดความผันผวน ตราสารอนุพันธ์ก็ยังสามารถทำกำไรได้ครับ แต่อย่างนั้น ก็อย่าลืมวางแผนประเมินความเสี่ยงก่อนทำการลงทุนนะครับ
ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) มีรูปแบบการลงทุนเลือกลงทุนหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น Futures, Option, Swap และอื่น ๆ ซึ่งการลงทุนเหล่านี้ก็จะอ้างอิงกับสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น
ความเสี่ยงของตราสารอนุพันธ์ (Derivative) |
ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) มีความเสี่ยงที่สูงมากเนื่องจากสินทรัพย์ต่าง ๆ ในตราสารอนุพันธ์จะอ้างอิงราคาที่จะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคตในการทำกำไร ซึ่งการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตก็ถือเป็นเรื่องที่ยากเกินการคาดคะเน เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมรวมถึงเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นล้วนส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์ที่เราทำการลงทุน และเหตุการณ์เหล่านี้เราก็ไม่มีทางที่จะรู้ล่วงหน้าได้ ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาและทำความเข้าใจในสินทรัพย์ก่อนเข้ามาลงทุนจริงเสมอครับ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตราสารอนุพันธ์ (Derivative) |
➢ Derivative Warrants คือ ใบแสดงสิทธิอนุพันธ์ในตราสารอนุพันธ์ที่ถือเป็นหุ้นชนิดหนึ่ง โดยมีราคาอ้างอิงตามดัชนีอ้างอิงนั้น ๆ โดย DW (Derivative Warrant) จะสามารถซื้อขายได้บนตลาดหลักทรัพย์ทั่วไปครับ
➢ ตลาดอนุพันธ์ คือ ตลาดที่เป็นศูนย์กลางสำหรับทำการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ (Derivative) ซึ่งเป็นตราสารที่มีการอ้างอิงมูลค่าอยู่กับสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งครับ
➢ สัญญาสวอป (Swap) เป็นสัญญาทางการเงินที่คู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะแลกเปลี่ยนกัน ส่วนสัญญาออปชัน (Option) จะเป็นสัญญาที่ให้สิทธิแก่ผู้ซื้อในการซื้อ - ขาย ครับ
สรุป ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) |
ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) เป็นตราสารทางการเงินที่นำเอามูลค่าของตราสารไปอ้างอิงไว้กับสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น รวมถึงสกุลเงินต่างประเทศ โดยมูลค่าของตราสารอนุพันธ์จะผันผวนไปตามการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ที่อ้างอิงนั้น ๆ ทำให้ตราสารอนุพันธ์สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
อย่างไรก็ดี ตราสารอนุพันธ์นั้น แม้จะสามารถทำกำไรได้ทั้งในสภาวะที่ตลาดผันผวน แต่การลงทุนในตราสารอนุพันธ์ก็ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคนเสมอไปครับ หากคุณคิดจะลงทุนในตราสารอนุพันธ์ ก็ขอแนะนำให้ศึกษาตลาดนี้ให้เข้าใจและประเมินความเสี่ยงรวมถึงวางแผนการลงทุนของคุณก่อนเริ่มทำการลงทุนเพื่อลดโอกาสในการขาดทุนครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้
อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกที่นี่
อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM