การลงทุนในตลาดหุ้นส่วนใหญ่แล้วจะอิงไปกับสถานการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลกเพราะเป็นการลงทุนในต่างประเทศ และทุกครั้งที่มีการรายงานข่าวด้านเศรษฐกิจโลก เรามักจะได้ยินคำว่า “ดัชนี เอสแอนด์พี 500 หรือ S&P 500 หรือ S&P” ซึ่งถ้าเป็นนักลงทุนมือใหม่อาจจะยังเกิดความสงสัยว่าคืออะไร มีความสำคัญอย่างไรบ้างต่อการลงทุน เราไปศึกษาข้อมูลด้านล่างนี้กันเลยครับ
S&P500 คือดัชนีของตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกาที่แสดงตัวเลขหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่จำนวน 500 บริษัท
ซึ่งตัวเลข S&P500 นักลงทุนส่วนใหญ่ใช้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจในการลงทุนด้านต่าง ๆ โดยอุตสหกรรมของหุ้นใน S&P500 แบ่งเป็นดังนี้ เทคโนโลยีสารสนเทศ 23.2% , บริการด้านสุขภาพ 14.2% , การเงิน 13% , บริการการสื่อสาร 10.4% , สินค้าอุปโภคบริโภคชนิดฟุ่มเฟือย 9.8% , กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม 9.1% , สินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็น 7.2% , พลังงาน 4.3% , สาธารณูปโภค 3.3% , อสังหาริมทรัพย์ 2.9% , วัสดุก่อสร้าง 2.7%
โดย S&P500 มีหุ้นที่มีขนาดใหญ่กว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม Dow Jones โดยดัชนี Dow Jones จะติดตามราคาหุ้นของ 30 บริษัท ที่เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมที่ดีที่สุด ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดคิดเป็นเกือบหนึ่งในสี่ของตลาดหุ้นสหรัฐ และดัชนี Dow Jones เป็นตัวบ่งชี้ตลาดที่ถูกนำมาใช้มากที่สุดในโลก มากกว่าดัชนี S&P500
ดัชนี S&P500 อาจจะนับได้ว่าเป็นตัวชี้วัดที่ดีตัวหนึ่งในการที่จะบอกว่าเศรษฐกิจของประเทศดีหรือไม่ เพราะเป็นดัชนีที่มีการติดตามบริษัทขนาดใหญ่ถึง 500 แห่ง ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ และ S&P 500 มักสะท้อนถึงทิศทางทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา จากข้อมูลดัชนีปี 2560 เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นกลุ่มผู้นำที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าดัชนี Dow Jones จะเป็นดัชนีที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด แต่นักลงทุนมักจะมองไปที่ S&P500 เมื่อต้องการประเมินว่าตลาดโดยรวมเป็นอย่างไร ดังนั้น ดัชนีนี้จึงถือเป็นดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐ
โดยเราสามารถซื้อขาย S&P500 ได้จากสัญญา CFD หรือสัญญาซื้อขายส่วนต่าง ย่อมาจาก Contract of Difference เป็นตราสารอนุพันธ์รูปแบบหนึ่งระหว่างเทรดเดอร์กับตัวกลาง เพื่อทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์อ้างอิง โดยไม่ได้เป็นเจ้าของเทรดเดอร์กับตัวกลาง และทำกำไรจากความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์อ้างอิง โดยไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงนั้น ก็นับว่า S&P500 เป็นทั้งตัวชี้วัดที่มีประสิทธิภาพ และเป็นสินค้าที่สามารถทำกำไรได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หากนักลงทุนยังไม่ค่อยมั่นใจและอยากที่จะลงทุนใน ดัชนี S&P500 สามารถซื้อเป็นกองทุนแบบเฉลี่ย หรือ DCA ในการถัวเฉลี่ยในแต่ละเดือนได้ เพื่อเก็บสะสมเป็นเงินออมในอนาคต เพราะการซื้อแบบถัวเฉลี่ยหรือ DCA มีผลดีมากกว่าผลเสีย โอกาสทำกำไรก็สูง ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องสภาวะของตลาดกับการซื้อขายนั่นเอง แต่สิ่งสำคัญที่สุดทุกการลงทุนต้องศึกษาให้รอบครอบการตัดสินใจทุกครั้ง เพื่อเป็นการป้องกันเงินของเราให้ไม่ขาดทุนได้นั่นเอง
---------------------------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้
อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกทีนี่
อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM