Bid/Ask คือ องค์ประกอบสำคัญของการเทรด Forex ที่เทรดเดอร์ทั้งมือใหม่และมืออาชีพจำเป็นต้องรู้ วันนี้ทีมงาน Fxbrokerscam จะพามาทำความรู้จักกับ Bid/Ask ในตลาด Forex ว่ามีความสำคัญอย่างไรบ้าง ? และมีข้อแตกต่างกันอย่างไร แล้วทำไมเทรดเดอร์จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจใน Bid/Ask ทางเราได้รวบรวมมาไว้ให้อ่านในบทความนี้เรียบร้อยแล้วครับ
ราคา Bid/Ask คืออะไร ? |
ราคา Bid/Ask ถือเป็น 2 องค์ประกอบสำคัญอย่างมากในตลาด Forex เนื่องจาก Bid/Ask นั้นมีผลต่อกำไรขาดทุนของเทรดเดอร์ อีกทั้งยังแสดงถึงความผันผวนของตลาดได้อีกด้วยครับ
ราคา Bid หมายถึง ราคาขายที่โบรกเกอร์ทำการเสนอให้ผู้ซื้อและยินดีที่จะจ่าย ซึ่งจะใช้กับออเดอร์แบบ Sell
ราคา Ask หมายถึง ราคาซื้อที่โบรกเกอร์เสนอให้ผู้ขายและยินดีที่จะขาย ซึ่งจะใช้กับออเดอร์แบบ Buy
ตัวอย่าง จากรูป ราคา Bid ของ EUR/USD คือ 1.08952 ส่วนราคา Ask ของ EUR/USD คือ 1.08966 นั่นหมายความว่า
หากเทรดเดอร์ต้องการเปิดออเดอร์ฝั่ง Sell หรือปิดออเดอร์ฝั่ง Buy จะได้ราคา Bid ซึ่งก็คือ 1.08952
หากเทรดเดอร์ต้องการเปิดออเดอร์ฝั่ง Buy หรือปิดออเดอร์ฝั่ง Sell จะได้ราคา Ask ซึ่งก็คือ 1.08966
ความสำคัญของ Bid/Ask และ Spread |
เส้นราคาของ Bid และ Ask มีความสำคัญต่อเทรดเดอร์อย่างมาก กล่าวคือ เส้นราคาของ Bid และ Ask เป็นราคาที่ใช้สำหรับซื้อและขายคู่สกุลเงิน ซึ่งช่องว่างของราคา Bid และ Ask หรือก็คือ Spread จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า โบรกเกอร์นั้น ๆ มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในส่วนนี้แพงหรือไม่ ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนในการเทรด ดังนั้น หากเทรดเดอร์ไม่อยากเสียค่าธรรมเนียมในส่วนนี้เยอะจนเกินไปก็อาจจะต้องพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ที่มีค่า Spread ต่ำนั่นเองครับ
ทำไมเทรดเดอร์ต้องทำความเข้าใจราคา Bid Ask ? |
ราคาของ Bid/Ask จะแปรผันไปตามอุปสงค์และอุปทานของตลาด จึงทำให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์ความผันผวนของตลาดได้จากราคา Bid/Ask อีกทั้งยังช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดได้ว่าควรเข้าซื้อในช่วงเวลาไหนจึงจะเหมาะสม การรู้ข้อมูลเหล่านี้จึงถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะส่งผลดีให้กับเทรดเดอร์ในระยะยาวทั้งด้านการทำกำไรและการวางแผนการเทรด
Spread คืออะไร ? |
Spread คือ ส่วนต่างระหว่างเส้นราคา Bid และ Ask ของคู่สกุลเงิน ซึ่งส่วนต่างนี้จะถือเป็นเงินค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจากนักลงทุนเมื่อเปิดออเดอร์ซื้อ/ขาย โดยจะ Spread จะสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท
ประเภทของ Spread ในตลาด Forex |
Fixed Spread คือ ค่า Spread ที่คงที่ไม่เคลื่อนไหวไปตามสภาวะของตลาด โดยค่า Spread จะถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วโดยโบรกเกอร์ ซึ่ง Spread รูปแบบนี้จึงเหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงจากสภาวะที่ตลาดผันผวนและเป็นการจำกัดต้นทุนที่ใช้เทรดครับ แต่อย่างไรก็ดี การใช้ Spread ประเภทนี้อาจจะต้องระวังเรื่องของการเกิด Requotes ครับ
Variable Spread คือ ค่า Spread ที่ผกผันไปตามราคา Bid/Ask ที่เคลื่อนไหวขึ้นและลงตามสภาวะของตลาดตลอดเวลา Spread ประเภทนี้จึงสามารถสะท้อนถึงสภาพตลาดที่แท้จริงได้ ในขณะเดียวกัน ต้นทุนในการเทรดก็อาจจะเพิ่มสูงมากในช่วงตลาดผันผวน อย่างไรก็ดี Spread ประเภทนี้มีข้อดี คือ ไม่ค่อยเกิดปัญหา Requotes มากนัก แต่ก็มีข้อควรระวังที่อาจจะเกิด Slippage ครับ
การคำนวณราคา Spread |
ราคา Spread คือ ราคาที่โบรกเกอร์จะเรียกเก็บจากเทรดเดอร์ทุกครั้งที่ทำการซื้อ/ขาย โดย Spread จะคำนวณจากสูตรต่อไปนี้ครับ
⭐ Spread = ราคา Ask (ราคาเสนอขาย) - ราคา Bid (ราคาเสนอซื้อ) ⭐ |
ตัวอย่าง หากราคา Bid/Ask ของคู่สกุลเงิน EUR/USD คือ 1.09466/1.09483
ราคา Bid : 1.09466
ราคา Ask : 1.09483
Spread : 1.0948 - 1.0946 = 17 point (หรือ 1.7 pips)
โดยปกติแล้วในตลาด Forex 1 pips จะเท่ากับทศนิยมตำแหน่งที่ 4 ของราคาคู่สกุลเงิน แต่ตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่ามีทศนิยม 5 ตำแหน่ง ดังนั้น จึงเกิดหน่วยที่เล็กลงเรียกว่า จุด (Point) โดย 10 จุด จะเท่ากับ 1 pips ครับ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่า Bid Ask และ Spread |
ปัจจัยที่ส่งผล |
ผลกระทบ |
อธิบายเพิ่มเติม |
สภาพคล่องตลาด |
สภาพคล่องสูง ส่งผลให้ Spread แคบ |
ยิ่งตลาดมีสภาพคล่องที่สูงก็แปลว่า การซื้อ - ขายเพิ่มมากขึ้น ทำให้ Spread แคบลง |
สภาพคล่องต่ำ ส่งผลให้ Spread กว้าง |
ยิ่งตลาดมีสภาพคล่องที่ต่ำก็แปลว่า การซื้อ - ขายในตลาดลดน้อยลง ทำให้ Spread กว้างขึ้น |
|
ความผันผวนในตลาด |
ผันผวนสูง ส่งผลให้ Spread กว้าง |
หากความผันผวนในตลาดสูงมาก โบรกเกอร์จะมีการตั้ง Spread ให้กว้างขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนของราคา |
ผันผวนต่ำ ส่งผลให้ Spread แคบ |
หากความผันผวนในตลาดต่ำ โบรกเกอร์จะมีการตั้ง Spread ให้แคบลง |
|
ข่าวสาร / เหตุการณ์สำคัญ |
ข่าวสาร / เหตุการณ์สำคัญ ส่งผลให้ Spread กว้าง |
เมื่อมีข่าวสาร หรือเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลให้ตลาดเกิดความผันผวนสูง จะส่งผลให้ Spread กว้าง |
ความแตกต่างของ Bid Ask และ Spread |
Bid คือ ราคาเสนอซื้อที่ผู้ซื้อยินดีที่จะจ่ายเพื่อซื้อสินค้านั้น ๆ ส่วน Ask คือ ราคาเสนอขายที่ผู้ขายต้องการจะขาย ณ เวลานั้น ๆ และพื้นที่ที่อยู่ระหว่าง Bid และ Ask นั่นคือ Spread ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่เราต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์เมื่อทำการซื้อ/ขาย หากความต่างระหว่างราคา Bid/Ask มีมากขึ้นเท่าไหร่ Spread ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น กล่าวคือ เมื่อราคา Ask สูงกว่าราคา Bid มากจะทำให้ Spread กว้างขึ้น แต่ในทางกลับกัน เมื่อราคา Ask ใกล้เคียงกับราคา Bid จะทำให้ Spread แคบลง ทำให้ราคา Spread จะแปรผันไปตามความต่างของราคา Bid/Ask นั่นเองครับ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Bid Ask และ Spread |
➢ เส้นราคา Ask หมายถึง ราคาเสนอขายที่ผู้ขายยินดีจะขาย ณ เวลานั้น ๆ ครับ
➢ Spread หุ้น คือ ความแตกต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขายของหุ้นตัวนั้น ๆ
➢ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนครับว่า Offer หรือ Ask นั้น มีความหมายเดียวกัน ซึ่งหลายท่านที่เทรดหุ้นน่าจะคุ้นเคยกันดีกับคำนี้ ดังนั้น หากกล่าวให้เข้าใจโดยง่ายราคา Bid จึงหมายถึง ราคาที่ผู้ซื้อเสนอซื้อ ส่วน Offer จะหมายถึง ราคาเสนอขายที่ผู้ขายยินดีที่จะขายนั่นเองครับ
สรุป Bid Ask และ Spread คืออะไร |
Bid Ask และ Spread คืออะไร ? อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า Bid คือ ราคาเสนอซื้อที่ฝั่งผู้ซื้อเต็มใจที่จะจ่ายในการซื้อสินค้า ส่วน Ask คือ ราคาเสนอขายที่ผู้ขายต้องการขาย ณ เวลานั้น ๆ และ Spread คือ ส่วนต่างของราคา Bid Ask ซึ่งจะเป็นค่าธรรมเนียมที่เทรดเดอร์จะต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์ จะเห็นได้ว่า Bid Ask และ Spread นั้นสำคัญต่อการเทรด Forex เป็นอย่างมาก เทรดเดอร์จึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Bid Ask ให้ดี ซึ่งการเข้าใจในเรื่องเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจซื้อขายได้อย่างตรงจุดและถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรด อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วยและวางแผนการเทรดให้ดีเพื่อลดความเสี่ยงของการขาดทุนในอนาคตครับ
-------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้
อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกที่นี่
อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM