ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในเช้าวันอังคาร (26 เม.ย.) และใกล้แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หากเทียบกับค่าเงินยูโร และสูงสุดในรอบ 18 เดือนเมื่อเทียบกับเงินปอนด์
จากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น เหตุจากการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้ของจีน และการประกาศเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนพฤษภาคมอย่างรวดเร็วทำให้ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้น
การล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเมืองเซี่ยงไฮ้ของจีน มีผลบังคับใช้มาเป็นร่วมหนึ่งเดือน และการตรวจหาเชื้อของประชาชนในกรุงปักกิ่งที่กำลังดำเนินอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้คนเพิ่มความกังวลมากขึ้นว่าจะมีการล็อกดาวน์เพิ่มต่อไปอีกหรือไม่
ด้านความเห็นจากประธานเฟด ‘เจอโรม พาวเวล’ ที่ออกมาประกาศว่า มีความเป็นได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เข้มงวดขึ้น และเฟดมีการคาดการณ์จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครึ่งจุดในการประชุมอีกสองครั้งถัดไป ทำให้ความกังวลเหล่านี้ไม่เพียงแค่ทำให้นักลงทุนเข้าสู่ตลาดดอลลาร์ แต่ยังทำให้ตลาดตราสารทุนถูกเทขายออกอย่างหนัก และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลง
ค่าเงินดอลลาร์เทียบกับกลุ่มสกุลเงินอื่น ๆ ลดลง 0.23% มาอยู่ที่ 101.535
USD/JPY ขยับลง 0.15% เป็น 127.92
AUD/USD เพิ่มขึ้น 0.60% เป็น 0.7220 โดยตลาดออสเตรเลียเปิดขึ้นหลังจากวันหยุด
NZD/USD เพิ่มขึ้น 0.39% เป็น 0.6639
USD/CNY ลดลง 0.41% เป็น 6.5325
ในขณะที่ GBP/USD เพิ่มขึ้น 0.23% เป็น 1.2770