ราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันซึ่งถือเป็นช่วงขาลงที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม
เนื่องจากนักลงทุนยังทยอยขายสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความคาดหวังว่าสถานการณ์ในการเจราระหว่างรัสเซีย-ยูเครนจะมีความคืบหน้า และเฟดเตรียมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี นับแต่การเกิดโรคระบาดโควิด-19
ราคาทองคำ ปรับตัวลง 31.10 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ที่ 1,929.70 ดอลลาร์
โดยวันอังคารที่ผ่านมา (15 มี.ค.) ทองคำร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 1,908.20 ดอลลาร์ มากกว่า 170 ดอลลาร์หรือ 8% จากระดับสูงสุด
ซึ่งทำให้เห็นถึงการเชื่อมั่นของตลาดในการเจรจาระหว่ารัสเซียและยูเครนจะประสบความคืบหน้า โดยการเจรจานี้ต้องการเรียกร้องให้รัสเซียทำการหยุดยิง และถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากยูเครน
นักลงทุนที่ยังต้องจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%
หลังจากปล่อยอัตราดอกเบี้ยแทบจะเป็นศูนย์นับตั้งแต่การระบาดของโควิด ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี
นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ของเฟด อาจจะไม่ส่งผลมากพอในการแก้ปัญหาที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพุ่งขึ้น 7.9% ในรอบปีจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเฟดยอมรับอัตราเงินเฟ้อได้เพียง 2% ต่อปี
และความเป็นไปได้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดประมาณ 7 ครั้งในปีนี้ ตามจำนวนการประชุมในปฏิทินของ FOMC