ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูเครนมีแนวโน้มหดตัวรุนแรงถึง 45.1% เนื่องจากวิกฤติสงครามรัสเซีย-ยูเครนได้ส่งกระทบอย่างหนักต่อภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมการส่งออกและภาคเศรษฐกิจของยูเครน
ผลกระทบจากสงครามจะทำให้ธุรกิจกว่าครึ่งหนึ่งในยูเครนต้องปิดตัวลง อีกทั้งการปิดเส้นทางลำเลียงขนส่งทางเรือจากยูเครนเข้าสู่ภูมิภาคทะเลดำ ทำให้การส่งออกธัญพืชของยูเครนลดลงกว่า 90% ส่งผลให้ยอดรวมการส่งออกสินค้าของยูเครนลดลงราว 50%
แอนนา บีเจอร์เด รองประธานธนาคารโลกฝ่ายกิจการยุโรปและเอเชียกลางกล่าวว่า “การที่เศรษฐกิจของยูเครนลดฮวบลงอย่างหนักเป็นผลจากการที่รัสเซียใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน และสร้างความเสียหายอย่างมากต่อโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจ เพื่อให้ดำเนินเศรษฐกิจต่อไปได้ ยูเครนจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ขณะที่รัฐบาลยูเครนเองก็กำลังใหความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยสงคราม"
นอกจากนั้น ธนาคารโลกได้อนุมัติเงินกู้เพื่อช่วยเหลือยูเครนแล้ว 923 ล้านดอลลาร์ และกำลังพิจารณาอนุมัติเพิ่มอีกกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเงินเหล่านี้จะช่วยให้รัฐบาลยูเครนสามารถจ่ายเงินเดือนพนักงานที่มีความจำเป็นในยามศึกสงครามและเพื่อชำระหนี้ตามพันธกรณี ซึ่งรวมถึงหนี้พันธบัตรรัฐบาล
ขณะเดียวกันธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ในปีนี้เศรษฐกิจรัสเซียจะหดตัวลง 11.2% จากผลกระทบที่สหรัฐฯ และชาติตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตรธนาคาร บริษัทของรัฐ และสถาบันที่สำคัญของรัสเซีย
ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ในปีนี้เศรษฐกิจในภูมิภาคยุโรปตะวันออกซึ่งรวมถึงยูเครน เบลารุสและมอลโดวา จะหดตัวลง 30.7% เนื่องจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนส่งผลให้การค้าในภูมิภาคประสบภาวะหยุดชะงัก
อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกยังได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ในภูมิภาคยุโรปตอนกลางซึ่งรวมถึงบัลกาเรีย โครเอเชีย ฮังการี โปแลนด์ และโรมาเนีย ลดลงเหลือ 3.5% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.7% เนื่องจากผลกระทบจากผู้ลี้ภัยสงครามที่ทะลักเข้าสู่ยุโรปตอนกลาง รวมทั้งปัญหาราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นและอุปสงค์ที่ถดถอยลง เนื่องจากภาคธุรกิจและผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น