วันนี้ (28 เม.ย. 2565) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ปธน.รัสเซีย 'วลาดีมีร์ ปูติน' ได้ออกมาประกาศเตือนว่า ประเทศใดก็ตามที่คิดจะเข้าไปแทรกแซงในสงครามยูเครนจะต้องเผชิญกับการตอบสนองที่ 'รวดเร็วราวสายฟ้าแลบ'
พร้อมระบุว่ารัสเซียมีอาวุธทุกอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้ และจะใช้มันหากจำเป็น ปูตินไม่ได้เจาะจงว่าเครื่องมือดังกล่าวนั้นคืออะไร แต่เมื่อไม่นานมานี้ ผู้นำรัสเซียได้ตรวจตราการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปซาร์มัต ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และคาดหมายว่ารัสเซียจำประจำการขีปนาวุธดังกล่าวเร็ว ๆ นี้ ในขณะที่ขีปนาวุธซาร์มัตแต่ละลูกมีศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์อย่างน้อย 10 หัวรบทั้งนี้ ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังชาติตะวันตกจัดการประชุมสุดยอดในเยอรมนี และให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการสนับสนุนทางทหารให้แก่ยูเครน
ขณะที่ ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ระบุว่า ชัยชนะของยูเครนเป็นความจำเป็นในเชิงยุทธศาสตร์ต่อชาติตะวันตก เพราะหากครั้งนี้ปูตินชนะ จะก่อให้เกิดความเดือดร้อนทั่วยุโรปและจะส่งผลกระทบเลวร้ายไปทั่วโลก
ทรัสส์ ย้ำว่า ชาติพันธมิตรจำเป็นต้องเพิ่มการสนับสนุนยูเครนเป็นสองเท่า เพื่อขับไล่กองทัพทหารรัสเซีย โดยจะต้องผลักดันให้ออกจากพื้นที่ทั้งหมดของยูเครน รวมถึงไครเมีย ดินแดนที่ถูกรวมไว้ในรัสเซียไปเมื่อ 8 ปีก่อน นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า ชาติตะวันตกควรยับยั้งการรุกรานของรัสเซียในอนาคต และควรส่งอาวุธให้ยูเครน รวมถึงประเทศต่าง ๆ ที่ถูกรัสเซียคุกคาม เพื่อช่วยให้ประเทศเหล่านั้นรักษาเสรีภาพและอธิปไตยของตนไว้ได้ ด้านโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เปิดเผยว่า ได้รับคำเชิญจากผู้นำอินโดนีเซียให้เข้าร่วมการประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ 20 ประเทศ (G20) แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะตอบรับคำเชิญหรือไม่
อีกด้านหนึ่ง คณะกรรมาธิการยุโรปได้กล่าวหารัสเซียว่า แบล็กเมล์ หลังจากรัสเซียยกเลิกการส่งออกก๊าซไปยังโปแลนด์และบัลแกเรีย