List of content

โปรแกรมเทรด Forex ตัวไหนดี? เจาะลึกแอปเทรด Forex ยอดนิยม 2025


โปรแกรมเทรด Forex ตัวไหนดี? เจาะลึกแอปเทรด Forex ยอดนิยม 2025

ในโลกของการเทรด Forex โปรแกรมเทรด Forex หรือแอปพลิเคชันที่ใช้ในการซื้อขาย ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถดำเนินการซื้อขายได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ แต่คำถามก็คือ แอปเทรดหรือโปรแกรมเทรด Forex ไหนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ? บทความนี้จะพาไปเจาะลึกแอปเทรด Forex ยอดนิยมในปี 2025 พร้อมทั้งแนะนำวิธีการเลือกโปรแกรมเทรดที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณครับ

 

โปรแกรมเทรด Forex คืออะไร? 

โปรแกรมเทรด Forex คือ ซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งคำสั่งซื้อขายของเทรดเดอร์เข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) พร้อมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวของราคา และวิเคราะห์กราฟสำหรับการซื้อขายคู่สกุลเงินและทรัพย์สินทางการเงินอื่น ๆ เช่น ทองคำ, น้ำมัน, ดัชนี และสกุลเงินดิจิทัล โปรแกรมเทรดเหล่านี้รองรับทั้งการส่งคำสั่งซื้อขายแบบกำหนดเองและการเทรดตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ล่วงหน้า (Algorithmic Trading) โดยสามารถเขียนคำสั่งด้วยภาษาที่ใช้เฉพาะ เช่น MQL4, MQL5 หรือ Pine Script เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการเทรด

แพลตฟอร์มการเทรด Forex บางรูปแบบสามารถใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้โดยไม่ต้องดาวน์โหลด แต่สำหรับโปรแกรมเทรด Forex โดยเฉพาะ มักจะต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ในอุปกรณ์ก่อนใช้งานเสมอ โดยอุปกรณ์ยอดนิยมสำหรับเทรดเดอร์ ได้แก่ คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ และแล็ปท็อปครับ

 

 โปรแกรมเทรด Forex ในคอมพิวเตอร์

โปรแกรมเทรด Forex บนคอมพิวเตอร์ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของเทรดเดอร์ที่เน้นการวิเคราะห์เชิงลึกหรือการเทรดที่ซับซ้อน ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ที่ช่วยให้การดูกราฟราคาและการวิเคราะห์ข้อมูลทำได้อย่างละเอียด นอกจากนี้ยังรองรับการเปิดใช้งานหลายหน้าต่างพร้อมกัน เพิ่มความสะดวกในการจัดการข้อมูลและติดตามตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทรดเดอร์ยังสามารถใช้คีย์ลัดหรือพิมพ์คำสั่งเพื่อส่งออเดอร์ได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพที่ต้องการเครื่องมือครบครัน การใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากสามารถติดตั้งโปรแกรมเสริม เช่น Expert Advisors (EA) สำหรับการเทรดอัตโนมัติ รวมถึงการเขียนโค้ดคำสั่งซื้อขายหรือพัฒนาเครื่องมือวิเคราะห์เฉพาะทางด้วยภาษา MQL4/MQL5 ได้อย่างยืดหยุ่น

นอกจากนี้ โปรแกรมเทรด Forex บนคอมพิวเตอร์ยังมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร รองรับการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากและการจัดการหลายออเดอร์พร้อมกันได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม อาจมีข้อจำกัดในเรื่องความสะดวกในการพกพา ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับการใช้งานนอกสถานที่ครับ

 

การติดตั้งโปรแกรมเทรด Forex ในคอมพิวเตอร์

โปรแกรมเทรด Forex บนคอมพิวเตอร์ สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้ง่ายผ่านเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ที่คุณใช้งาน ส่วนใหญ่รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS เช่น MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5) และ cTrader 

 

โปรแกรมเทรด Forex ในคอมพิวเตอร์

 

 โปรแกรมเทรด Forex บนมือถือหรือแล็ปท็อป

​​โปรแกรมเทรด Forex บนมือถือหรือแล็ปท็อปเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เน้นความสะดวก, รวดเร็ว และการพกพาสำหรับการเทรดนอกสถานที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการตรวจสอบตลาดแบบเรียลไทม์ หรือส่งคำสั่งซื้อขายในสถานการณ์เร่งด่วน โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่มีการเดินทางบ่อยหรือไม่ได้อยู่กับคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา

โปรแกรมเทรด Forex บนมือถือหรือแล็ปท็อปช่วยให้เทรดเดอร์สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้อย่างง่ายดาย แต่ก็มีข้อจำกัดในส่วนของขนาดหน้าจอที่เล็กกว่าคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับการวิเคราะห์ข้อมูลหลายส่วนพร้อมกัน นอกจากนี้ ฟีเจอร์บางอย่างอาจถูกลดทอนลงเพื่อให้เหมาะสมกับการแสดงผลบนหน้าจอมือถือหรือแล็ปท็อป อีกทั้งประสิทธิภาพในการใช้งานอาจได้รับผลกระทบหากสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้งานในพื้นที่ที่มีความครอบคลุมของเครือข่ายต่ำครับ

 

การติดตั้งโปรแกรมเทรด Forex บนมือถือหรือแล็ปท็อป

แอปพลิเคชันสำหรับเทรด Forex บนมือถือสามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store (iOS) และ Google Play Store (Android) เช่น แอป MT4, MT5 หรือแอปเฉพาะของโบรกเกอร์

 

โปรแกรมเทรด Forex บนมือถือ

 

โปรแกรมเทรด Forex สำคัญอย่างไร

โปรแกรมเทรด Forex ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้การซื้อขายในตลาด Forex มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ต่าง ๆ ที่มาพร้อมฟังก์ชันหลากหลาย และความสามารถในการดำเนินการซื้อขายอย่างราบรื่น โดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา ดังนั้น การเลือกโปรแกรมเทรดจึงต้องเลือกให้ตอบโจทย์และเหมาะสมกับสไตล์การเทรดของตนเองครับ

 

การเลือกโปรแกรมเทรด Forex

ปัจจุบันมีโปรแกรมเทรด Forex มากมายที่มาพร้อมกับคุณสมบัติและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันของเทรดเดอร์แต่ละคน โดยปัจจัยสำคัญที่เทรดเดอร์ควรพิจารณาในการเลือกโปรแกรมเทรด Forex มีดังนี้

 

ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ

โปรแกรมเทรด Forex ส่วนใหญ่ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับการใช้งาน แต่โบรกเกอร์จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ค่าคอมมิชชัน, ค่าสเปรด และค่าธรรมเนียมการถือออเดอร์ข้ามคืน (Swap) ซึ่งเทรดเดอร์ควรตรวจสอบรายละเอียดของค่าธรรมเนียมเหล่านี้อย่างรอบคอบ เนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงต่อผลกำไรในการเทรดครับ

 

ค่าคอมมิชชัน 

เทรดเดอร์ควรตรวจสอบค่าคอมมิชชันของแต่ละโบรกเกอร์อย่างรอบคอบ โดยบัญชีประเภทที่เรียกเก็บค่าคอมมิชชันมักมาพร้อมกับสเปรดที่ต่ำกว่า ดังนั้น การเลือกประเภทบัญชีที่สอดคล้องกับกลยุทธ์การเทรด และต้นทุนที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนครับ

 

ค่าคอมมิชชันบัญชี Raw Spread ของ Exness

ค่าคอมมิชชันของบัญชี Raw Spread ของโบรกเกอร์ Exness

 

ค่าคอมมิชชันบัญชี Raw Spread ของ IUX

ค่าคอมมิชชันของบัญชี Raw ของโบรกเกอร์ IUX

 

เทรดเดอร์สามารถตรวจสอบค่าคอมมิชชันของแต่ละโบรกเกอร์ได้ในช่อง Commission ซึ่งจากตัวอย่างในภาพ จะเห็นว่าโบรกเกอร์ Exness มีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชัน $7 สำหรับบัญชี Raw Spread ขณะที่โบรกเกอร์ IUX เรียกเก็บค่าคอมมิชชัน $6 สำหรับบัญชี Raw อย่างไรก็ตาม ยังมีบัญชีประเภทอื่นของ IUX และ Exness ที่ไม่มีการเก็บค่าคอมมิชชัน แต่อาจจะมีค่าสเปรดที่สูงกว่าบัญชีที่มีค่าคอมมิชชัน ดังนั้น เทรดเดอร์สามารถเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรดของตนเองได้ตามต้องการครับ

 

ค่าสเปรด

ควรเปรียบเทียบความกว้างของค่าสเปรดในคู่สินทรัพย์ที่คุณเทรดบ่อยที่สุด เนื่องจากโบรกเกอร์สเปรดที่ต่ำจะช่วยลดต้นทุนการเทรดและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ครับ

 

ค่าสเปรด IUX

ค่าสเปรดของโบรกเกอร์ IUX

 

 

ค่าสเปรด Exness

ค่าสเปรดของโบรกเกอร์ Exness

 

ค่า Swap

สำหรับเทรดเดอร์สายเทรดยาวที่ถือคำสั่งซื้อขายข้ามคืน ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่มีค่า Swap หรือมีค่า Swap ต่ำ เพื่อช่วยลดต้นทุนในการถือออเดอร์ระยะยาวครับ

 

 

โบรกเกอร์

Swap

รายละเอียด

โบรกเกอร์ IUX

IUX

ไม่มี Swap ทุกบัญชี

⭐ เปิดบัญชี IUX ⭐ 

⭐ อ่านรีวิว IUX ฉบับเต็ม ⭐ 

โบรกเกอร์ Exness

Exness

ไม่มี Swap ทุกบัญชี

⭐ เปิดบัญชี Exness ⭐ 

⭐ อ่านรีวิว Exness ฉบับเต็ม ⭐ 

 

ความสะดวกในการใช้งาน

โปรแกรมการเทรด Forex มักมีการออกแบบหน้าตาการใช้งานที่แตกต่างกันไป แต่ควรมีโครงสร้างที่เข้าใจง่าย, เป็นมิตรต่อผู้ใช้ และสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของเทรดเดอร์ นอกจากนี้ยังควรมีฟังก์ชันพื้นฐาน เช่น การตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit รวมถึงการแสดงกราฟราคาที่เข้าถึงและใช้งานได้สะดวก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดครับ

 

โปรแกรมเทรด IUX

โปรแกรมเทรดของโบรกเกอร์ IUX

 

โปรแกรมเทรด Exness

โปรแกรมเทรดของโบรกเกอร์ Exness

 

ฟีเจอร์ที่โดดเด่น

การมีฟีเจอร์ที่โดดเด่นสามารถเพิ่มความได้เปรียบในการเทรด ตัวอย่างเช่น โบรกเกอร์ IUX ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Lot Back ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับเงินคืนบางส่วนจากปริมาณการซื้อขาย (Rebate) ทำให้ลดต้นทุนในระยะยาว

 

โปรแกรม LotBack ของ IUX

อ่านรายละเอียด LotBack เพิ่มเติม

 

ความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย

ความเร็วในการส่งคำสั่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์แบบ Scalping การส่งคำสั่งอย่างรวดเร็วช่วยลดปัญหาการล่าช้า (Slippage) และราคาผันผวน ควรเลือกโปรแกรมเทรด Forex ที่มีโครงสร้างเซิร์ฟเวอร์ที่เสถียร และสามารถรองรับการส่งคำสั่งในระยะเวลาไม่กี่มิลลิวินาที เพื่อเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการเทรดครับ 

 

การรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์

ความหลากหลายในการรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงตลาดได้ทุกที่ทุกเวลา ควรตรวจสอบว่าโปรแกรมรองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Android, iOS รวมถึงเวอร์ชันเดสก์ท็อปอย่าง Windows หรือ MacOS เพื่อให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ใช้งาน โดยแอปเทรด Forex ควรทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาค้างหรือปิดตัวเองครับ

 

รีวิวจากผู้ใช้งานจริง

การศึกษาความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง ช่วยให้รู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้งาน ทั้งในแง่ของข้อดีและข้อเสีย โดยการอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานอื่น ๆ จะช่วยให้เห็นทั้งจุดเด่นและปัญหาที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ ควรเลือกโปรแกรมที่ได้รับเสียงตอบรับเชิงบวก และได้รับการยอมรับจากชุมชนเทรดเดอร์เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานครับ

 

รีวิวจากผู้ใช้งานจริงของ IUX Pantip

รีวิวผู้ใช้จริงจาก Pantip ของ IUX

รีวิวผู้ใช้จริงจาก Pantip ของ IUX คนที่ 1

รีวิวผู้ใช้จริงจาก Pantip ของ IUX คนที่ 2

รีวิวผู้ใช้จริงจาก Pantip ของ IUX คนที่ 3

รีวิวผู้ใช้จริงจาก Pantip ของ IUX คนที่ 4

 

 

ที่มา: Pantip

 

รีวิวจากผู้ใช้งานจริงของ Exness Pantip

รีวิวผู้ใช้จริงจาก Pantip ของ Exness

รีวิวผู้ใช้จริงจาก Pantip ของ Exness คนที่ 1

รีวิวผู้ใช้จริงจาก Pantip ของ Exness คนที่ 2

รีวิวผู้ใช้จริงจาก Pantip ของ Exness คนที่ 3

รีวิวผู้ใช้จริงจาก Pantip ของ Exness คนที่ 4

 

 

ที่มา: Pantip

 

3 โปรแกรมเทรด Forex ยอดนิยม

โปรแกรมเทรด Forex ปัจจุบันมีหลากหลาย โดยเทรดเดอร์สามารถเลือกใช้ตามความถนัดและความชำนาญ เนื่องจากการเทรดในตลาด Forex ต้องอาศัยทั้งความแม่นยำและความรวดเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย ซึ่งโปรแกรมเทรด Forex ที่ได้รับความนิยมและใช้งานอย่างแพร่หลายประกอบด้วย 3 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่ MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5) และ cTrader ซึ่งแต่ละโปรแกรมมีฟีเจอร์และคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เหมาะกับลักษณะการใช้งานและสไตล์การเทรดที่หลากหลายของเทรดเดอร์ ดังนี้

 

MetaTrader 4 (MT4) 

MetaTrader 4 (MT4) เป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในวงการเทรด Forex มานานกว่า 15 ปี ด้วยฟีเจอร์ที่ครบครันและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ โดยโปรแกรมเทรดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการวิเคราะห์ตลาด Forex และ CFD โดยเฉพาะ

 

คุณสมบัติหลักของ MetaTrader 4 (MT4) 

  • การเทรดได้ในคลิกเดียว
  • รองรับการใช้งาน Expert Advisors (EA) สำหรับการเทรดอัตโนมัติ
  • อินดิเคเตอร์กว่า 50 ตัว และสามารถเลือกกราฟได้ 9 Timeframe
  • รองรับการตั้งค่าพื้นฐานสำหรับการเทรดที่ยืดหยุ่น เช่น Pending Order, Stop Loss และ Take Profit

 

จุดเด่นของ MetaTrader 4 (MT4) 

  • ความเสถียรและความง่ายในการใช้งาน
  • รองรับหลายอุปกรณ์ ทั้ง Windows, Android และ iOS
  • ปรับแต่งได้ตามความต้องการของเทรดเดอร์

 

ข้อเสียของ MetaTrader 4 (MT4) 

  • รองรับการเทรดเฉพาะ Forex ไม่เหมาะกับการเทรดสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น หุ้นหรืออนุพันธ์
  • อินเทอร์เฟซอาจดูล้าสมัยสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความทันสมัย
  • บางโบรกเกอร์ให้บริการ MT4 ด้วยสเปรดที่มากกว่าสเปรดที่คิดบนแพลตฟอร์มเทรดของตัวเอง

 

MetaTrader 5 (MT5) 

MetaTrader 5 (MT5) เป็นการพัฒนาต่อยอดจาก MT4 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเทรดที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การเทรดหุ้น, ฟิวเจอร์ส และ Cryptocurrency นอกจากนี้ยังเพิ่มฟีเจอร์การวิเคราะห์ขั้นสูงที่ทำให้โปรแกรมเทรดนี้เป็นที่นิยมในกลุ่มเทรดเดอร์มืออาชีพครับ

 

คุณสมบัติหลักของ MetaTrader 5 (MT5) 

  • รองรับการเทรดหลากหลายสินทรัพย์ ทั้ง Forex, หุ้น, ฟิวเจอร์ส และ Cryptocurrency 
  • เพิ่มฟีเจอร์การส่งคำสั่ง 4 รูปแบบ: Instant, Request, Market, และ Exchange execution
  • รองรับการตั้งค่าเงื่อนไขการเทรดที่หลากหลาย เช่น Buy Stop-Limit และ Sell Stop-Limit
  • การวิเคราะห์ตลาดเชิงลึกได้ดี

 

จุดเด่นของ MetaTrader 5 (MT5) 

  • รองรับสินทรัพย์หลายประเภท ทำให้เทรดเดอร์สามารถกระจายการลงทุนได้
  • ฟีเจอร์การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ล้ำสมัย เช่น การเลือกอินดิเคเตอร์กว่า 512 ตัว
  • ความเสถียรที่ดีขึ้นและรองรับการเทรดหลายตลาดพร้อมกัน

 

ข้อเสียของ MetaTrader 5 (MT5) 

  • ฟีเจอร์ที่หลากหลายอาจทำให้เทรดเดอร์มือใหม่รู้สึกสับสน
  • จำนวน Expert Advisors ยังไม่เยอะเท่า MT4 ทำให้การใช้งานอัตโนมัติอาจมีข้อจำกัด
  • ฟีเจอร์ค่อนข้างซ้ำซ้อนกับ MT4 ทำให้เทรดเดอร์เปลี่ยนมาใช้ MT5 น้อยกว่าที่ควรจะเป็น

 

cTrader

cTrader ถูกพัฒนาโดย Spotware และเป็นที่รู้จักสำหรับการออกแบบที่ทันสมัยและใช้งานง่าย cTrader รองรับการเทรด Forex และ CFD โดยเฉพาะ มีฟีเจอร์การคำนวณค่าธรรมเนียมที่โปร่งใส และการเทรดอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความสะดวกสบายและการเทรดที่มีประสิทธิภาพสูง

 

คุณสมบัติหลักของ cTrader

  • การเทรดในคลิกเดียว และรองรับการเทรดอัตโนมัติด้วยฟีเจอร์ cAlgo
  • รองรับการปรับแต่งอินดิเคเตอร์และบอตการเทรดได้หลายแบบผ่านภาษา C#
  • การแสดงผลกราฟและการวิเคราะห์ทางเทคนิคมีความละเอียดและทันสมัย
  • รองรับการวิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

 

จุดเด่นของ cTrader

  • ฟีเจอร์การคำนวณค่าธรรมเนียมที่โปร่งใส ช่วยให้การคำนวณต้นทุนการเทรดเป็นเรื่องง่าย
  • ระบบ cAlgo ช่วยให้สามารถเขียนคำสั่งการเทรดอัตโนมัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • อินเทอร์เฟซที่ทันสมัย ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ

 

ข้อเสียของ cTrader

  • จำนวนโบรกเกอร์ที่รองรับ cTrader ยังน้อยกว่าที่รองรับ MT4 และ MT5
  • ฟีเจอร์บางอย่างอาจต้องใช้เวลาศึกษาและเรียนรู้สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
  • ยังไม่มีฟีเจอร์ที่รองรับการเทรดหลายตลาดในเวลาเดียวกัน ซึ่งทำให้ไม่เหมาะสมสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในหลาย ๆ ตลาด

 

เทรด Forex แอปไหนดี

การเลือกโปรแกรมเทรด Forex ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ที่ลูกค้าเลือกใช้บริการ ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์มักจะมีแพลตฟอร์มของตนเอง ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับเทรดเดอร์ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างระบบจะมีความรวดเร็วและแม่นยำ แต่บางครั้งอาจพบปัญหาเกี่ยวกับฟีเจอร์ที่อาจไม่คุ้นเคยและแตกต่างจากแพลตฟอร์มที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ใช้งาน หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่มองหาฟีเจอร์ที่เรียบง่ายและเสถียร MT4 ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการฟีเจอร์หลากหลายและรองรับการเทรดสินทรัพย์หลายประเภท MT5 จะเป็นตัวเลือกที่ดี ส่วน cTrader เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาการออกแบบที่ทันสมัยและการคำนวณค่าธรรมเนียมที่โปร่งใสครับ

 

ตารางเปรียบเทียบ 3 โปรแกรมเทรดยอดนิยม

นี่คือตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของ 3 โปรแกรมเทรดยอดนิยม ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกใช้โปรแกรมเทรดที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้มากยิ่งขึ้นครับ

 

คุณสมบัติ

MT4

MT5

cTrader

1. รองรับการเทรด Forex

✔️

✔️

✔️

2. รองรับการเทรด CFD

✔️

✔️

✔️

3. รองรับการเทรดหุ้น

✔️

4. รองรับการเทรดฟิวเจอร์ส

✔️

5. รองรับการเทรด Cryptocurrency

✔️

✔️

6. การแสดงกราฟ

9 timeframes

21 timeframes

10 timeframes

7. รองรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค (indicator)

50+ indicators

70+ indicators

50+ indicators

8. Expert Advisors (EA)

✔️

✔️

✔️ (cAlgo)

9. การตั้งคำสั่งเทรดอัตโนมัติ

✔️

✔️

✔️ (cAlgo)

10. รองรับการตั้งค่า Pending Order

✔️

✔️

✔️

11. รองรับการตั้ง Stop Loss/Take Profit

✔️

✔️

✔️

12. รองรับการเทรดแบบ One Click

✔️

✔️

✔️

13. รองรับการเทรดหลายบัญชีพร้อมกัน

✔️

✔️

✔️

14. การแสดง Order Book (Market Depth)

✔️

✔️

15. รองรับการเทรดสินทรัพย์หลายประเภท

✔️

✔️

16. การคำนวณค่าธรรมเนียมโปร่งใส

✔️

17. ระบบสัญญาณการเทรด (Trading Signals)

✔️

✔️

✔️

18. รองรับภาษา C++ สำหรับการเขียน EA

✔️

✔️

✔️ (ภาษา C#)

19. การใช้ฟีเจอร์ Multi-Asset

✔️

✔️

 

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรมเทรด Forex 

เทรดเดอร์ใช้โปรแกรมอะไรเทรด Forex ได้บ้าง?

       ▶ เทรดเดอร์สามารถเลือกใช้โปรแกรมเทรดตามโบรกเกอร์ที่ตนเองเลือกใช้บริการ เช่น โปรแกรมเทรดของโบรกเกอร์เอง, MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5), cTrader และอื่น ๆ

แอปเทรด Forex ที่ดีที่สุด มีอะไรบ้าง?

       ▶  แอปเทรด Forex ที่ดีที่สุด ซึ่งได้รับความนิยมในกลุ่มเทรดเดอร์ได้แก่  MetaTrader 4 (MT4), MetaTrader 5 (MT5) และ cTrader

Exness เชื่อม MT5 ยังไง?

       ▶  เปิดโปรแกรม MT5 และเลือกจัดการบัญชีจากเมนูหลัก แตะไอคอน + แล้วเลือกลงชื่อเข้าใช้บัญชีที่มีอยู่แล้ว ป้อน "Exness" จากนั้นเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ในการซื้อขายที่ตรงกับบัญชีซื้อขายของคุณ ป้อนหมายเลขบัญชีซื้อขายและรหัสผ่านของบัญชีซื้อขาย จากนั้นแตะที่ลงชื่อเข้าใช้

 

[template]

 

  บทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม 🔔

 

สรุปโปรแกรมเทรด Forex ตัวไหนดี?

การเลือกโปรแกรมเทรด Forex ควรพิจารณาจากโบรกเกอร์ที่คุณเลือกใช้บริการ เนื่องจากโบรกเกอร์แต่ละรายมักมีแพลตฟอร์มของตนเอง ซึ่งการใช้แพลตฟอร์มที่โบรกเกอร์จัดเตรียมไว้จะช่วยให้การเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างระบบมีความรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น แต่สำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้บริการหลายโบรกเกอร์และมองหาแพลตฟอร์มยอดนิยม MetaTrader 4 (MT4) ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด สำหรับเทรดเดอร์ที่มองหาฟีเจอร์ที่เรียบง่ายและเสถียร ส่วน MetaTrader 5 (MT5) จะเป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการฟีเจอร์หลากหลายและรองรับการเทรดสินทรัพย์หลายประเภท ส่วน cTrader เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาการออกแบบที่ทันสมัยและการคำนวณค่าธรรมเนียมที่โปร่งใส การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับความต้องการและสไตล์การเทรดของคุณจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดและลดความซับซ้อนในการใช้งานได้อย่างดี

 

⚠️ ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเชิญชวนหรือแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด เนื่องจากการลงทุนทุกรูปแบบมีความเสี่ยง ดังนั้น การเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยการวางแผนอย่างรอบคอบและศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดจึงเป็นสิ่งสำคัญครับ ⚠️

--------------------------------------------------------

สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้

อัปเดตข่าวสารการลงทุนในตลาด Forex : คลิกที่นี่

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกที่นี่

อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM