เมื่อพูดถึงตรุษจีน หลายคนคงนึกถึงบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองอย่างสนุกสนาน แต่สำหรับนักลงทุน การเทรดทองคำในช่วงนี้นับเป็นโอกาสสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ตรุษจีนเป็นช่วงเวลาที่ตลาดทองคำมักเต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวและความผันผวน ซึ่งเกิดจากปัจจัยหลากหลาย เช่น สภาพเศรษฐกิจ, วันหยุดเทศกาล และความคาดหวังของนักลงทุนต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในเวทีโลก
ในปี 2025 ตรุษจีนยังมีความพิเศษเพิ่มขึ้น เนื่องจากตรงกับช่วงที่สหรัฐอเมริกาประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่คือ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเหตุการณ์นี้อาจส่งผลต่อทิศทางของราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ บทความนี้จะพาทุกท่านไปสำรวจและวิเคราะห์แนวโน้มต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนทองคำในช่วงตรุษจีนปี 2025 ให้ เฮง เฮง เฮง! ครับ
⚠️ คำเตือน! เนื้อหาในบทความเป็นเพียงข้อเสนอแนะเท่านั้น ไม่ได้เชิญชวนหรือแนะนำให้ท่านลงทุนในสินทรัพย์ใด ๆ ดังนั้น จึงควรใช้วิจารณญาณและพิจารณาความเหมาะสมก่อนตัดสินใจใด ๆ⚠️ |
เทศกาลตรุษจีน หรือ “ชุนเจี๋ย” (春节) คือการเฉลิมฉลองปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติของชาวจีนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,000 ปี นับเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ครอบครัวจะได้กลับมารวมตัวกันเพื่อสักการะบรรพบุรุษ และเฉลิมฉลองการเริ่มต้นใหม่ด้วยขนบธรรมเนียมที่เปี่ยมด้วยความหมาย
ในช่วงเทศกาลตรุษจีน บ้านเรือนจะถูกทำความสะอาดอย่างพิถีพิถัน เพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไปและต้อนรับโชคลาภที่จะมาถึง บรรยากาศตามร้านค้าและห้างสรรพสินค้าอบอวลไปด้วยความคึกคัก ผู้คนต่างเลือกซื้อเสื้อผ้าใหม่, ของขวัญ และบัตรอวยพรเพื่อมอบให้ญาติมิตรและคนที่รัก ตลาดสดเองก็เต็มไปด้วยผู้คนที่มาเลือกสรรวัตถุดิบ เช่น ปลา, เนื้อสัตว์, เป็ด, ไก่ และเครื่องปรุงสำคัญ เพื่อเตรียมอาหารสำหรับการไหว้บรรพบุรุษและจัดงานเลี้ยงต้อนรับปีใหม่
ตรุษจีนไม่ได้เป็นเพียงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองปีใหม่ แต่ยังเป็นโอกาสที่ครอบครัวจะได้กลับมารวมตัวกัน แสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ และสืบทอดวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น ความสำคัญของเทศกาลนี้ได้ขยายไปยังประเทศที่มีชาวจีนอาศัยอยู่ทั่วโลก เช่น อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งล้วนเฉลิมฉลองด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสัน ความสุข และความอบอุ่นของครอบครัว
ในช่วงตรุษจีนตลาดการเงินบางแห่งอาจมีการหยุดทำการหรือปิดเร็วขึ้น เช่น ตลาดหุ้นจีน, ตลาดหุ้นฮ่องกง รวมถึงตลาดการเงินในบางประเทศในภูมิภาคเอเชีย ปริมาณการซื้อขายในตลาดมักลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาจนำไปสู่ความผันผวนที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาเกิดขึ้นได้ง่ายและถูกกระตุ้นได้มากกว่าปกติ ซึ่งในเทศกาลตรุษจีน ตลาด Forex จะได้รับผลกระทบ ดังนี้
หยวนจีน (CNY) : ในช่วงตรุษจีน การจับจ่ายใช้สอยในจีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่น การซื้อของขวัญ, ของไหว้ และการท่องเที่ยว ส่งผลให้ค่าเงินหยวนอาจแข็งค่าชั่วคราว อย่างไรก็ตาม การหยุดชะงักของการผลิตและการส่งออกในช่วงวันหยุดยาวอาจกดดันให้หยวนอ่อนค่าได้ในบางกรณีครับ
ดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) : การบริโภคในฮ่องกงช่วงตรุษจีนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าเงิน HKD มีความเคลื่อนไหว
สกุลเงินในภูมิภาคอื่น ๆ (THB, MYR) : ประเทศที่มีประชากรชาวจีนจำนวนมาก เช่น ไทยและมาเลเซีย มักมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในช่วงตรุษจีน ส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาคนี้อาจมีการปรับตัวในระยะสั้นได้
การปิดทำการของตลาดหุ้นและธนาคารในจีน รวมถึงประเทศที่เฉลิมฉลองตรุษจีน อาจทำให้สภาพคล่องในตลาด Forex ลดลง โดยเฉพาะคู่เงินที่เกี่ยวข้องกับภูมิภาคเอเชีย เช่น USD/CNY, USD/HKD, AUD/USD ในสภาพคล่องที่ต่ำ ความผันผวนมักเพิ่มขึ้น เนื่องจากคำสั่งซื้อขายปริมาณมากสามารถส่งผลกระทบต่อราคาได้อย่างง่ายดาย
ทองคำ (XAU/USD) : ความต้องการทองคำมักเพิ่มขึ้นในช่วงตรุษจีน เนื่องจากการซื้อเพื่อเป็นของขวัญและการลงทุนในจีนและอินเดีย ราคาทองคำจึงมักปรับตัวขึ้นในช่วงนี้
น้ำมัน (Oil) : ความต้องการใช้น้ำมันสำหรับการเดินทางในช่วงตรุษจีนอาจเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้รับอิทธิพล
เนื่องจากการส่งออกและการบริโภคภายในประเทศมีความสำคัญอย่างมากในช่วงตรุษจีน การคาดการณ์เกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะมีผลต่อราคาสินทรัพย์ในระดับโลก โดยเฉพาะในภาคการผลิตและการขนส่ง
ก่อนช่วงตรุษจีน ผู้ผลิตและส่งออกในจีนมักเร่งผลิตและส่งมอบสินค้าก่อนวันหยุดยาว ช่วงนี้อาจทำให้ค่าเงินหยวน (CNY) มีความผันผวน
หลังตรุษจีน การชะลอตัวของการผลิตและการส่งออกอาจกดดันให้ค่าเงินอ่อนลง
AUD/USD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย) : ออสเตรเลียเป็นผู้ส่งออกสินค้าหลัก เช่น แร่เหล็กและถ่านหินไปยังจีน ช่วงตรุษจีนที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัว อาจส่งผลให้ AUD อ่อนค่าได้ครับ
NZD/USD (ดอลลาร์นิวซีแลนด์) : ความต้องการสินค้าเกษตรจากนิวซีแลนด์อาจลดลงในช่วงตรุษจีน เนื่องจากการขนส่งชะลอตัว ซึ่งอาจทำให้ NZD ผันผวนได้
ในช่วงตรุษจีนตลาดอาจมีความผันผวนจากการเก็งกำไรของเทรดเดอร์บางกลุ่ม โดยเทรดเดอร์อาจใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตรุษจีน เช่น ตัวเลขการจับจ่ายใช้สอยหรือความต้องการทองคำในการเก็งกำไร ทำให้การเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงนี้อาจเกิดจากข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนหรือพฤติกรรมผู้บริโภค
ในช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปี มักมีความเชื่อที่ว่า "วันตรุษจีนยังไงทองคำก็ขึ้น" ซึ่งเป็นวลีที่เทรดเดอร์หลายท่านคุ้นหูมาบ้าง เพื่อไขข้อสงสัยนี้ ทีมงานได้รวบรวมสถิติราคาทองคำช่วงตรุษจีนย้อนหลัง 10 ปี เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มดังกล่าว
ในปี 2024 วันตรุษจีนที่ 10 กุมภาพันธ์ วันนั้นตลาดปิด ภาพรวม 1 อาทิตย์ก่อนวันตรุษจีนทองคำมีการปรับลง 1500 จุด
ในปี 2023 วันตรุษจีน 22 กุมภาพันธ์ วันนั้นตลาดปิด ภาพรวม 1 อาทิตย์ก่อนวันตรุษจีนทองคำมีการปรับเพิ่มขึ้น 600 จุด
ในปี 2022 วันตรุษจีน 1 กุมภาพันธ์ ทองคำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 400 จุด ภาพรวม 1 อาทิตย์ก่อนวันตรุษจีนทองคำมีการปรับลดลง 2700 จุด
ดังนั้น แม้ว่าจะพบว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในบางปีช่วงตรุษจีน แต่เมื่อพิจารณาในภาพรวม ข้อมูลไม่ได้สนับสนุนความเชื่อที่ว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นเสมอไปในทุกปี การวิเคราะห์แนวโน้มและการตัดสินใจลงทุนจึงควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาดในขณะนั้น
10 กุมภาพันธ์ 2024 |
ตลาดปิด |
-1500 จุด |
34,350 |
22 มกราคม 2023 |
ตลาดปิด |
+600 จุด |
29,800 |
1 กุมภาพันธ์ 2022 |
+ 400 จุด |
-2700 จุด |
28,400 |
12 กุมภาพันธ์ 2021 |
-100 จุด |
+1000 จุด |
25,850 |
25 มกราคม 2020 |
ตลาดปิด |
+6000 จุด |
23,200 |
5 กุมภาพันธ์ 2019 |
+400 จุด |
-300 จุด |
20,000 |
16 กุมภาพันธ์ 2018 |
-500 จุด |
+3100 จุด |
20,600 |
28 มกราคม 2017 |
ตลาดปิด |
-1900 จุด |
20,450 |
8 กุมภาพันธ์ 2016 |
+1600 จุด |
+5500 จุด |
20,100 |
19 กุมภาพันธ์ 2015 |
-600 จุด |
-2800 จุด |
19,200 |
หมายเหตุ: ราคาทองคำแท่งขายออกอ้างอิงจากราคาทองคำ.com
การลงทุนในทองคำช่วงเทศกาลตรุษจีนเป็นโอกาสที่น่าสนใจ เนื่องจากความต้องการทองคำมักเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบและมีกลยุทธ์ที่เหมาะสม
ข้อมูลย้อนหลังชี้ให้เห็นว่า เดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน มักเป็นเดือนที่ราคาทองคำให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดของปี อย่างไรก็ตาม ในบางปีราคาทองคำก็มีการลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความผันผวนในตลาด ดังนั้น นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำในแต่ละปีอย่างรอบคอบ
ก่อนการลงทุน ควรกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนก่อน เพื่อให้สามารถกำหนดแผนในการบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ราคาทองคำได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น
นอกจากการซื้อทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณ ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเพราะสามารถจับต้องทองคำได้จริง ๆ แล้ว ในปัจจุบันยังมีทางเลือกการลงทุนในทองคำผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์ หรือการลงทุนในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับทองคำ ซึ่งทั้งสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น การเลือกวิธีการลงทุนทองคำควรพิจารณาจากความรู้, ความเข้าใจ และระดับความเสี่ยงที่ตนเองสามารถยอมรับได้ เพื่อให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของแต่ละบุคคลครับ
การกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ในปี 2025 หรือที่เรียกกันว่า 'โดนัลด์ ทรัมป์ 2.0' พร้อมกับสุนทรพจน์แรกที่กล่าวว่า 'เราจะดำเนินการตามกฎง่าย ๆ 2 ข้อ คือ ซื้อของอเมริกัน จ้างคนอเมริกัน' นั้นคาดว่าจะมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยในหลายด้าน ดังนี้
นโยบายการค้าของทรัมป์ที่มุ่งเน้นการปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ อาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางการค้ากับประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะจีน การเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอาจทำให้การค้าโลกชะลอตัว และส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
การลงทุน : การย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังไทยอาจเพิ่มการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น รถยนต์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจไทยในระยะยาว
ราคาน้ำมัน : นโยบายพลังงานของทรัมป์ที่สนับสนุนการผลิตน้ำมันในประเทศอาจทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อไทยในฐานะประเทศผู้นำเข้าน้ำมัน
นโยบายเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ มีผลกระทบอย่างมากต่อตลาดการเงินทั่วโลก โดยเฉพาะตลาด Forex การดำเนินนโยบายที่เน้นการปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) และสกุลเงินอื่น ๆ ซึ่งเทรดเดอร์ในตลาด Forex ควรตระหนักถึงผลกระทบเหล่านี้เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม
การกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ ในปี 2025 ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดการเงินทั่วโลก โดยเฉพาะตลาด Forex และราคาทองคำ นโยบายเศรษฐกิจและการค้าของทรัมป์มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของสินทรัพย์ต่าง ๆ
หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ราคาทองคำมีความผันผวนอย่างมาก นักลงทุนมองว่าการดำเนินนโยบายของทรัมป์อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกและความไม่แน่นอนทางการเมือง ทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ จากนโยบายการค้าของทรัมป์กลับกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลง
นโยบายการค้าของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มุ่งเน้นการปกป้องเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้ราคาทองคำซึ่งถูกกำหนดด้วยดอลลาร์สหรัฐฯ มีราคาสูงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ส่งผลให้ความต้องการทองคำลดลงและราคาปรับตัวลงตามลำดับ
แม้ว่านโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ จะสร้างความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลก แต่การคาดการณ์ถึงการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการลดภาษีทำให้นักลงทุนย้ายเงินลงทุนจากสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า เช่น หุ้น ส่งผลให้ราคาทองคำอาจปรับตัวลดลง
YLG Bullion International (YLG) คาดการณ์ว่าในปี 2025 ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น โดยมีเป้าหมายที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำแท่งในประเทศไทย (ทองคำ 96.5%) มีโอกาสแตะระดับ 50,000 บาทต่อบาททองคำ หากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 35.10-35.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในปี 2568 ได้แก่
การใช้สกุลเงินดิจิทัลที่มีทองคำหนุนหลังโดยกลุ่ม BRICS : กลุ่มประเทศ BRICS (บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้) วางแผนที่จะใช้สกุลเงินดิจิทัลที่มีทองคำเป็นหลักประกัน ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นความต้องการทองคำในตลาดโลก
การสะสมทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก : ธนาคารกลางหลายประเทศยังคงเพิ่มปริมาณทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยงและเสริมความมั่นคงทางการเงิน
แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) : หากธนาคารกลางสหรัฐมีนโยบายลดอัตราดอกเบี้ยลง จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำจะลดลง
ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ : สถานการณ์ความขัดแย้งและความไม่แน่นอนในระดับโลกยังคงกระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ควรระวังว่าหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นถึงระดับเป้าหมาย อาจมีแรงเทขายทำกำไรออกมา ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำมีความผันผวน นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค : การใช้เครื่องมือเช่น Fibonacci, Moving Averages หรือการวิเคราะห์กราฟราคา อาจช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจซื้อขาย แม้จะอยู่ในสภาวะตลาดที่มีความผันผวนและไม่ปกติ
เทรดในช่วงเปิดตลาดที่มีความเคลื่อนไหวสูง : หากสามารถหาจังหวะที่ตลาดเริ่มกลับมามีความเคลื่อนไหวในช่วงเช้า การซื้อขายในช่วงนี้อาจเป็นโอกาสดีในการทำกำไร เนื่องจากนักลงทุนมักจะกลับมามีการเทรดมากขึ้น
การใช้ Stop Loss อย่างมีประสิทธิภาพ : การตั้งคำสั่ง Stop Loss อย่างรัดกุมในช่วงนี้เป็นวิธีที่ดีในการจำกัดความเสี่ยงจากความผันผวนที่สูงเกินไป
การเทรดระยะสั้น : ในช่วงที่มีความไม่แน่นอนและปริมาณการซื้อขายไม่สูง การเทรดในระยะสั้นจะช่วยให้สามารถตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่า
ตั้งเป้าหมายและจัดการความเสี่ยง : ควรกำหนดเป้าหมายการทำกำไรและขาดทุนให้ชัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสินใจตามอารมณ์ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
การเทรดในช่วงตรุษจีนต้องการการวางแผนที่รอบคอบและการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากช่วงเวลานี้มีความผันผวนสูงและปริมาณการซื้อขายที่ลดลง เทคนิคต่างๆ เช่น การใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค การตั้ง Stop Loss และการเทรดระยะสั้น จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับสภาพตลาดในช่วงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น
สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในทองคำในปี 2025 ควรติดตามปัจจัยต่างๆ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นช่วงที่โดนัลด์ ทรัมป์จะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี รวมถึงการเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ค่าเงินบาท และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เพื่อประเมินแนวโน้มราคาทองคำและตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ
นอกจากนี้ ควรพิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของตลาด และวางแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมายและความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนเอง
--------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้
อัปเดตข่าวสารการลงทุนในตลาด Forex : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกที่นี่
อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM