97
19 hours ago
(Mar 05, 2025 14:34)
CCI Indicator หรือที่เรียกว่า Commodity Channel Index เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถประเมินสภาวะของตลาดได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการการเทรด โดย CCI Indicator ทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ในรูปแบบ Oscillator ที่สามารถใช้ตรวจสอบความแข็งแกร่งของแนวโน้มและช่วยในการจับจังหวะการเทรดที่เหมาะสม สำหรับเทรดเดอร์ท่านใดที่กำลังมองหาวิธีการใช้งานอินดิเคเตอร์นี้อย่างละเอียด สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความนี้ครับ
⚠️ คำเตือน! เนื้อหาในบทความเป็นเพียงการให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เชิญชวนหรือแนะนำให้ท่านลงทุนในสินทรัพย์ใด ๆ ดังนั้น จึงควรใช้วิจารณญาณและพิจารณาความเหมาะสมก่อนตัดสินใจใด ๆ⚠️ |
CCI Indicator หรือ Commodity Channel Index คือ อินดิเคเตอร์ที่ใช้ประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้มราคาปัจจุบันเปรียบเทียบกับราคาเฉลี่ยในอดีต รวมทั้งระดับ Oversold และ Overbought เทรดเดอร์สามารถใช้ CCI ในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) เช่น น้ำมัน, ทองคำ หรือสินค้าเกษตร แต่ในปัจจุบัน CCI ได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้กับหลายสินทรัพย์มากขึ้น อาทิ หุ้น, Forex และดัชนีต่าง ๆ
 |
รู้หรือไม่ ? 💡
CCI ถูกพัฒนาในปี 1980 โดย Donald Lambert เพื่อใช้ในการหาวงจร (Cycle) ของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดย CCI ช่วยบ่งชี้การเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่ และสามารถเตือนเมื่อราคามีการเคลื่อนไหวมากเกินไปทั้งขาขึ้นและขาลง
|
สูตรการคำนวณ CCI
CCI = (Typical Price - SMA of Typical Price)/(0.015 x Mean Deviation) |
- Typical Price (TP) คือ (ราคาสูงสุด + ราคาต่ำสุด + ราคาปิด) / 3
- SMA of Typical Price คือ ค่า Simple Moving Average ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของ TP ในช่วงเวลาที่กำหนดมักจะใช้ 20 วัน
- Mean Deviation คือ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน นำมาจากค่าเฉลี่ยผลต่างของ TP กับ SMA
- 0.015 คือ ค่าคงที่ซึ่งถูกกำหนดโดย Donald Lambert เพื่อให้ค่า CCI ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง -100 ถึง +100
- ค่า CCI ที่สูงกว่า +100 หมายความว่าตลาดอาจจะอยู่ในภาวะ Overbought (ซื้อมากเกินไป) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณการขาย
- ค่า CCI ที่ต่ำกว่า -100 หมายความว่าตลาดอาจจะอยู่ในภาวะ Oversold (ขายมากเกินไป) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณการซื้อ
- ค่า CCI ที่อยู่ในช่วงระหว่าง +100 และ -100 มักหมายถึงตลาดที่มีความเคลื่อนไหวแบบคงที่ ไม่มีสัญญาณการซื้อหรือขายที่ชัดเจน
การใช้ CCI Indicator เพื่อระบุจุดกลับตัว (Divergence)
|
CCI สามารถช่วยให้เทรดเดอร์ระบุจุดกลับตัวของตลาดได้ เช่น เมื่อค่า CCI ขึ้นไปสูงกว่า +100 และเริ่มปรับตัวลง อาจเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มกำลังจะเปลี่ยนแปลงจากขาขึ้นเป็นขาลง หรือเมื่อค่า CCI ลดลงต่ำกว่า -100 และเริ่มปรับเพิ่มขึ้น อาจเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มกำลังจะเปลี่ยนแปลงจากขาลงเป็นขาขึ้น

Bullish Divergence : ราคาทำ Low ใหม่ แต่ CCI ยก Low สูงขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจเกิดการกลับตัวสู่ขาขึ้น

Bearish Divergence : ราคาทำ High ใหม่ แต่ CCI ทำ High ต่ำลง ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจเกิดการกลับตัวสู่ขาลง
การใช้ CCI เพื่อติดตามแนวโน้มใหม่ (Trend Following)
|
เมื่อ CCI มีค่าเกิน +100 หรือ -100 และยังคงรักษาระดับนี้ได้ในระยะยาว มันอาจจะเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังอยู่ในแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ดังนั้น การเปิดคำสั่งตามแนวโน้ม (Trend Following) อาจเป็นกลยุทธ์ที่ดี

- ในจังหวะที่ CCI เคลื่อนไหวเหนือระดับ +100 เป็นสัญญาณการเริ่มต้นเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น
- ในจังหวะที่ CCI เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ -100 เป็นสัญญาณการเริ่มต้นเข้าสู่แนวโน้มขาลง
คำแนะนำ🚨
การวิเคราะห์โดยใช้สัญญาณจาก CCI Indicator ในการติดตามแนวโน้มอาจมีโอกาสเกิดสัญญาณหลอก แนะนำให้ใช้เครื่องมืออื่น ๆ ร่วมกับการวิเคราะห์ CCI เพื่อให้ได้การประเมินที่แม่นยำยิ่งขึ้น
|
การใช้ CCI เพื่อหาโซน Overbought/Oversold
|
CCI สามารถใช้ในการระบุโซน Overbought และ Oversold ของตลาดได้ เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจเปิดหรือปิดการเทรดตามภาวะตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- เมื่อค่า CCI ขึ้นไปเกิน +100 จะบ่งชี้ว่าตลาดอาจอยู่ในภาวะ Overbought หรือซื้อเกินไป ซึ่งอาจเป็นสัญญาณการกลับตัวของขาลง
- เมื่อค่า CCI ต่ำกว่า -100 จะบ่งชี้ว่าตลาดอาจอยู่ในภาวะ Oversold หรือขายเกินไป ซึ่งอาจเป็นสัญญาณการกลับตัวของขาขึ้น
คำแนะนำ🚨
การวิเคราะห์โซน Overbought/Oversold บางครั้งอาจไม่ได้อ้างอิงเพียงแค่ระดับ +100 และ -100 เท่านั้น เนื่องจากแต่ละสินทรัพย์อาจมีค่าที่เหมาะสมแตกต่างกันไป ดังนั้น จึงแนะนำให้ใช้เครื่องมืออื่น ๆ ร่วมกับการวิเคราะห์ CCI เพื่อให้ได้การประเมินที่แม่นยำยิ่งขึ้นในการระบุโซน Overbought/Oversold
|
การใช้ CCI ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ
|
CCI มักจะใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ เช่น Moving Averages, MACD หรือ RSI เพื่อยืนยันสัญญาณและเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ
ข้อดี-ข้อควรระวังของการใช้ CCI Indicator
|
ข้อดีของการใช้ CCI Indicator
|
- ใช้งานง่าย โดยแม้ว่า CCI จะมีสูตรที่ซับซ้อนในการคำนวณ แต่สามารถอ่านผลได้ง่ายและรวดเร็ว
- ช่วยระบุโซน Overbought และ Oversold โดยมีการแจ้งเมื่อราคามีการซื้อหรือขายมากเกินไป ซึ่งทำให้สามารถวางกลยุทธ์การซื้อขายได้อย่างเหมาะสม
- สามารถระบุจุดกลับตัวของแนวโน้ม (Divergence) ได้
- สามารถใช้ได้กับสินทรัพย์หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์, หุ้น, Forex หรือดัชนีต่าง ๆ
|
ข้อควรระวังของการใช้ CCI Indicator
|
- ในบางครั้ง CCI อาจส่งสัญญาณการซื้อหรือขายที่ผิดพลาด (False Signals) โดยเฉพาะในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
- จำเป็นต้องใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์
|
ตัวอย่างการใช้ CCI Indicator ในการเทรด
|
การใช้ CCI ในการเปิดคำสั่ง Short (ขาย)
- เมื่อค่า CCI ขึ้นไปถึงระดับ +100 และเริ่มปรับตัวลง นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าตลาดอยู่ในภาวะ Overbought หรือซื้อเกินไป ซึ่งอาจมีแนวโน้มที่ราคาจะกลับตัวลง ดังนั้น เทรดเดอร์อาจพิจารณาเปิดคำสั่ง Short (ขาย) ในจังหวะนี้
การ CCI ในการเปิดคำสั่ง Long (ซื้อ)
- หากค่า CCI ลดลงต่ำกว่า -100 และเริ่มปรับตัวขึ้น นั่นอาจบ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในภาวะ Oversold หรือขายเกินไป ซึ่งอาจเป็นสัญญาณการกลับตัวขึ้นของราคา เทรดเดอร์จึงอาจพิจารณาเปิดคำสั่ง Long (ซื้อ) ในจังหวะนี้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ CCI Indicator
|
CCI ย่อมาจากอะไร ?
▶ CCI ย่อมาจาก Commodity Channel Index
CCI Indicator คืออะไร ?
▶ CCI Indicator คือ อินดิเคเตอร์ที่ใช้ในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) แต่ในปัจจุบันได้ถูกนำไปใช้กับสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น หุ้น, Forex และดัชนีต่าง ๆ
เคล็ดลับการใช้ CCI Indicator คืออะไร ?
▶ การใช้ CCI Indicator สามารถช่วยการระบุจุดกลับตัว (Reversal Point), ติดตามแนวโน้ม (Trend Following) และการใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ เพื่อให้การคาดการณ์แนวโน้มของราคาแม่นยำมากขึ้น
บทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม 🔔
|
CCI Indicator เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและช่วยเทรดเดอร์ในการตัดสินใจก่อนซื้อขาย โดยการระบุภาวะ Overbought หรือ Oversold รวมทั้งการช่วยติดตามแนวโน้มของราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ แม้ว่าจะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ก็จำเป็นต้องใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและลดความเสี่ยงจากสัญญาณที่ผิดพลาด
⚠️ ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเชิญชวนหรือแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด เนื่องจากการลงทุนทุกรูปแบบมีความเสี่ยง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ และเตรียมตัวให้พร้อมในการรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยการวางแผนและการศึกษาอย่างละเอียดจึงเป็นสิ่งสำคัญก่อนการตัดสินใจลงทุน ⚠️ |
--------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้
อัปเดตข่าวสารการลงทุนในตลาด Forex : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกที่นี่
อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM