List of content

Money Management (MM) คืออะไร? สำคัญอย่างไรต่อเทรดเดอร์


Money Management (MM) คืออะไร? สำคัญอย่างไรต่อเทรดเดอร์

คุณรู้หรือไม่? Money Management (MM) หรือการบริหารจัดการความเสี่ยง เป็นเครื่องมือที่สำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมพอร์ตการลงทุนของคุณอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยเฉพาะในตลาด Forex ที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและความผันผวน การเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จไม่เพียงแค่ต้องมีกลยุทธ์ที่หลากหลายหรือประสบการณ์การเทรดที่มากพอ แต่ยังต้องมีระเบียบวินัยที่เข้มงวดเพื่อความอยู่รอดในตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเทคนิคการจัดการเงิน (Money Management) อย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

 

Money Management (MM) คืออะไร?

 

หลักการ Money management ในการจัดการเงิน

 

Money Management (MM) คือ การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีระบบ เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการบริหารเงินทุนที่มีความครอบคลุมและเป็นระเบียบแบบแผนตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงระดับองค์กร เทคนิคนี้ช่วยให้นักลงทุนสามารถคำนึงถึงความเสี่ยงและผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการจัดการเงินอย่างเป็นระบบจะช่วยให้การลงทุนมีการควบคุมที่ดีและลดโอกาสในการสูญเสียที่ไม่คาดคิดได้ครับ

 

Money Management (MM) ในตลาด Forex คืออะไร?

Money Management (MM) ในตลาด Forex คือ การจัดการความเสี่ยงของเงินทุน เพื่อให้การเทรดมีระบบมากยิ่งขึ้น เนื่องจากตลาด Forex เป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง จึงเป็นเหตุให้การเทรดแต่ละครั้ง มักมีความเสี่ยงสูงตามไปด้วย ดังนั้น Money Management สำหรับเทรดเดอร์นั้นไม่ได้มีเพียงแค่การกำหนดวงเงินลงทุนหรือการตั้งค่าความเสี่ยงที่ยอมรับได้ แต่ยังรวมถึงการวางแผนระยะยาว, การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และการใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อจัดการกับความผันผวนของตลาดอย่างมีระเบียบ ตัวอย่างเช่น การกำหนดขนาดการลงทุนที่เหมาะสม, การตั้ง Stop Loss และ Take Profit ซึ่งล้วนเป็นส่วนสำคัญของการบริหารจัดการเงินที่ดี

สำหรับเทรดเดอร์ Money Management (MM) จึงถือเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งที่ใช้ในการคาดการณ์ตลาด หากต้องการลดความสูญเสีย เพิ่มการทำกำไร และเพิ่มการเติบโตของบัญชีการเทรดของคุณได้ครับ

 

ทำไม Money Management ถึงมีความสำคัญต่อเทรดเดอร์

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีความผันผวนสูงมาก ทำให้มีความเสี่ยงในการเทรดเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งหากเทรดเดอร์ไม่มีการวางแผน Money Management (MM) อาจทำให้คุณขาดทุนได้ เนื่องจากตลาด Forex ยังมีปัจจัยความเสี่ยงอื่น ๆ ที่คุณไม่สามารถควบคุมมันได้ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้คุณมีโอกาสขาดทุนได้ตลอดเวลา โดยปัจจัยความเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ปัจจัย ดังต่อไปนี้ 

  • ความเสี่ยงของตลาด เช่น นโยบายทางการเงิน ภัยพิบัติ หรือข่าวสารสำคัญ เป็นต้น ส่งผลให้ตลาด Forex สามารถผันผวนได้ทุกเมื่อ
  • ความเสี่ยงด้าน Leverage ส่งผลให้เทรดเดอร์มีโอกาสล้างพอร์ตได้
  • ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ในกรณีที่เทรดเดอร์เลือกเทรดสกุลเงินที่ไม่ได้รับความนิยมมากนักหรือสกุลเงินที่มีสภาพคล่องต่ำ จะส่งผลให้การเปิด-ปิดออเดอร์ของคุณล่าช้าและไม่เป็นไปตามที่ต้องการ

ดังนั้นแล้ว การวางแผน Money Management (MM) จึงถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะมันจะช่วยทำให้เทรดเดอร์มีการกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน อีกทั้ง Money Management (MM) ยังสามารถบริหารสัดส่วนของเงินทุนได้ดีอีกด้วย

 

วิธีการวางแผน Money Management (MM) ทำได้อย่างไร?

 

วิธีการวางแผน Money Management (MM) สำหรับการเทรดในตลาด Forex

วิธีการวางแผน Money Management (MM) สามารถแบ่งได้ 3 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้

1. การคำนวณ Lot

อันดับแรกของการวางแผน Money Management (MM) คือ การคำนวณ Lot เนื่องจาก Lot เป็นปริมาณการซื้อขายในตลาด Forex ที่เราใช้แทนจำนวนเงิน ซึ่งการเปิด Lot มักจะขึ้นอยู่กับเงินทุนของเทรดเดอร์แต่ละคน และการคำนวณ Lot มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการเทรด Forex เพราะการเปิด Lot จะบ่งบอกได้เลยว่า เทรดเดอร์มีโอกาสขาดทุนหรือได้กำไรในปริมาณเท่าใด

ดังนั้น Money Management (MM) ที่เทรดเดอร์ควรทำจึงเป็นการคำนวณ Lot ให้เหมาะสมกับปริมาณการเทรดของคุณ เมื่อตลาดมีความเสี่ยงมาก เทรดเดอร์ควรลดขนาด Lot ให้ต่ำลง แต่หากตลาดมีความเสี่ยงต่ำ เทรดเดอร์ควรเพิ่มขนาด Lot ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีนี้สามารถเรียกได้อีกอย่างว่า Position Sizing นั่นเอง

 

2. การกำหนดจุดตัด Stop Loss

วิธีการวางแผน Money Management (MM) ลำดับถัดมา นั่นก็คือ การกำหนดจุดตัด Stop Loss ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการขาดทุนที่เกินจำเป็น ซึ่งปกติแล้วเทรดเดอร์มักจะกำหนดจุด Stop Loss ไว้ที่ไม่เกิน 2% ต่อเงินทุน สำหรับการเทรดในหนึ่งครั้งครับ

 

3. การวาง Risk/Reward Ratio

การวาง Risk/Reward Ratio ถือเป็นการวางแผนที่เทรดเดอร์มักนำมาใช้ สำหรับ Money Management (MM) เนื่องจาก Risk/Reward Ratio เป็นการประเมินผลตอบแทนและความเสี่ยงที่เทรดเดอร์ยอมรับได้ ซึ่งปกติแล้วเทรดเดอร์จะตั้งอัตรา Risk/Reward Ratio ไว้ไม่เกินอัตราส่วน 1:3 จึงจะเหมาะสมครับ

 

สูตรการคำนวณ Money Management (MM)

 

สูตรการคำนวณ Money Management (MM) สำหรับเทรดเดอร์

สูตรการคำนวณ Money Management (MM) สามารถทำได้โดยการใช้กฎ 2% ครับ กล่าวคือ มีการตั้งกฎการขาดทุนได้ไม่เกิน 2% ของการเทรดในแต่ละครั้ง ยกตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์มีเงินทุนอยู่ที่ $100,000 หากอิงตามกฎขาดทุนไม่เกิน 2% เทรดเดอร์จะคาดการณ์ความเสี่ยงขาดทุนได้สูงสุดอยู่ที่ $2,000 นั่นเองครับ ซึ่งหากตัวเลขขาดทุนมากกว่า $2,000 ก็จะต้องมีการปรับกลยุทธ์อีกครั้ง

โดยกฎ 2% เป็นเพียงตัวเลขที่นักลงทุนนิยมใช้กัน เนื่องจากเป็นตัวเลขที่ไม่มากเกินไป หรือไม่น้อยเกินไป แต่เทรดเดอร์สามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามระดับความเสี่ยงที่สามารถรับได้ครับ 

 

หากเทรดเดอร์ไม่ใช้หลักการ Money Management จะเป็นอย่างไร?

การไม่คำนึงถึงหลักการ Money Management หมายความว่าคุณอาจมองแค่การทำกำไรในระยะสั้น โดยไม่คำนึงถึงการจัดการกับความเสี่ยงและการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การคำนวณความเสี่ยงที่ยอมรับได้และการตั้ง Stop Loss เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้การขาดทุนครั้งเดียวมีผลกระทบต่อพอร์ตการลงทุนโดยรวม การบริหารจัดการเงินที่ดีไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณรักษาผลกำไรที่ได้มา แต่ยังช่วยให้คุณสามารถปกป้องพอร์ตการลงทุนจากความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะแม้ว่าเทรดเดอร์จะสามารถเทรดได้กำไรถึง 10 ออเดอร์ติดต่อกัน แต่หากเกิดมีออเดอร์หนึ่งขาดทุนขึ้นมา จะส่งผลให้พอร์ตของคุณนั้นขาดทุนหรือติดลบได้ครับ 

 

ข้อดีของ Money Management (MM) มีอะไรบ้าง?

Money Management (MM) มีข้อดีที่สำคัญหลายประการ ดังนี้

  • ลดความเสี่ยงในการขาดทุนหรือความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของตลาด
  • ช่วยรักษาความเสถียรของพอร์ต โดยมีการกระจายการลงทุนเพื่อลดโอกาสในการสูญเสียครั้งใหญ่ที่อาจส่งผลกระทบต่อพอร์ตรวม
  • ช่วยรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด โดยมีการคาดการณ์และดำเนินกลยุทธ์เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรระยะยาว
  • ช่วยเสริมสร้างระเบียบวินัยในการเทรด โดยการกำหนดขอบเขตการลงทุนและการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งช่วยให้การตัดสินใจเทรดมีความเป็นระบบมากขึ้น

ข้อควรระวังของ Money Management (MM) มีอะไรบ้าง?

การวางแผน Money Management (MM) ที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนได้เช่นกัน ดังนี้

  • การกำหนดแผน Money Management ที่ไม่สอดคล้องกับลักษณะการลงทุนหรือความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนเอง อาจทำให้เกิดความเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุนที่มากเกินความสามารถในการรับมือ
  • การประเมินความเสี่ยงที่ผิดพลาด โดยการตัดสินใจลงทุนมีความเสี่ยงสูงเกินไป สามารถทำให้เกิดการขาดทุนอย่างรุนแรงได้
  • การไม่ตั้งเป้าหมายหรือแผนการที่ชัดเจนใน Money Management อาจทำให้การเทรดไม่มีทิศทางและยากต่อการควบคุมผลลัพธ์
  • การไม่ทบทวนแผน Money Management อย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้ไม่สามารถปรับตัวตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้ทัน 

สรุป Money Management (MM) คืออะไร?

การใช้หลักการ Money Management เป็นสิ่งที่สำคัญในการเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือมืออาชีพ การนำหลักการ MM มาใช้ในการกำหนดขนาดของการลงทุน (Lot Size), การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และการประเมินอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk/Reward Ratio) ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อช่วยให้คุณสามารถประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อช่วยให้คุณมีโอกาสทำกำไรในระยะยาวได้มากยิ่งขึ้นครับ ดังนั้น การทำความเข้าใจและนำ Money Management มาใช้ในการลงทุนจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามครับ

 

บทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม 🔔

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Money Management (MM)

สูตร Money Management (MM) คำนวณอย่างไร?

       ▶ สูตรการคำนวณ Money Management (MM) สามารถทำได้โดยการตั้งกฎ 2% เช่น หากเทรดเดอร์มีเงินทุนอยู่ที่ $100,000 หากอิงตามกฎขาดทุนไม่เกิน 2% เทรดเดอร์จะคาดการณ์ความเสี่ยงขาดทุนได้สูงสุดอยู่ที่ $2,000 ซึ่งหากตัวเลขขาดทุนมากกว่า $2,000 ก็จะต้องมีการปรับกลยุทธ์อีกครั้ง

Money Management (MM) สำหรับ Forex คืออะไร?

       ▶  Money Management (MM) ในตลาด Forex คือ การจัดการความเสี่ยงของเงินทุน เพื่อให้การเทรดมีระบบมากยิ่งขึ้น เนื่องจากตลาด Forex เป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง จึงเป็นเหตุให้การเทรดแต่ละครั้ง มักมีความเสี่ยงสูงตามไปด้วย

Money Management (MM) คืออะไร?

       ▶  Money Management (MM) คือ การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีระบบ ช่วยให้การลงทุนมีการควบคุมที่ดีและลดโอกาสในการสูญเสียที่ไม่คาดคิด

 

------------------------------------------------------------------------

สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้

อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่

อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกที่นี่

อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM