หากกล่าวถึงการลงทุนที่สร้างความยั่งยืนในอนาคต คงไม่มีใครไม่นึกถึง การลงทุนแบบถัวเฉลี่ย หรือ DCA เนื่องจาก DCA ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่ทราบว่า จะเริ่มต้นลงทุนอย่างไร? จึงจะสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ซึ่งการลงทุนแบบ DCA นี้จะเป็นก้าวแรกช่วยให้คุณสามารถกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้ดียิ่งขึ้น
วันนี้ทางทีมงาน FXbrokerscam จะพาทุกท่านมารู้จักกับ DCA คืออะไร? มีกลยุทธ์ที่สำคัญอย่างไรต่อนักลงทุน เพื่อช่วยให้ทุกท่านสามารถนำกลยุทธ์ DCA ไปปรับใช้กับพอร์ตการลงทุนของคุณได้ดียิ่งขึ้นครับ
DCA (Dollar-Cost Averaging) คือ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยที่มีรูปแบบในการทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ด้วยระยะเวลาและจำนวนเงินที่เท่า ๆ กัน โดยไม่ต้องคำนึงราคาของสินทรัพย์ในขณะนั้น โดยการลงทุนรูปแบบนี้ เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่หรือนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว เพราะการลงทุนแบบ DCA เป็นการสร้างวินัยในการลงทุนให้มีความต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
กลยุทธ์ DCA เหมาะสำหรับนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับการลงทุนในหุ้น, กองทุนรวม และ ETF เพราะกลยุทธ์การลงทุน DCA นี้ จะเน้นถึงการแบ่งเงินทุนออกเป็นส่วน ๆ ให้เท่า ๆ กัน โดยจะมองข้ามถึงมูลค่าของราคาสินทรัพย์ออกไป โดยอาศัยแนวคิดที่ว่า ราคาไม่เคยเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งกลยุทธ์ลักษณะนี้ จะมีส่วนช่วยในการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้ดีมากยิ่งขึ้น
หากคุณต้องการลงทุนสินทรัพย์ในกองทุนรวมสำหรับปีหน้า โดยคุณตั้งเป้าหมายเงินทุนทั้งหมดไว้ที่ 1,200 ดอลลาร์ ซึ่งหากคุณเลือกลงทุนแบบ DCA นั้น คุณจะต้องแบ่งเงินทุนในการลงทุนของคุณออกเป็น 100 ดอลลาร์ ในทุก ๆ เดือน เป็นระยะเวลา 1 ปี
เมื่อคุณกระจายเงินทุนออกเป็น 12 ครั้ง ในระยะเวลา 1 ปี จากจำนวนเงินที่เท่ากันนั้น เมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้คุณมีสินทรัพย์ในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากทุกครั้งที่คุณลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่าเดิมนั้น ในแต่ละครั้งที่ลงทุนจะได้มูลค่าและราคาสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน ซึ่งหากถัวเฉลี่ยกันแล้ว นั่นหมายความว่า คุณจะมีโอกาสในการทำกำไรที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ราคาเฉลี่ยรวมลดลงนั่นเอง
สำหรับการลงทุนหุ้นแบบ DCA นั่นก็คือ การเลือกซื้อหุ้นที่คุณเห็นว่า ในอนาคตจะมีแนวโน้มที่เติบโตได้ดี โดยจะเน้นลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ยกตัวอย่างเช่น นักลงทุนเริ่มต้นลงทุนหุ้นบริษัท A จำนวน 1,000 หุ้น ที่ราคา 100 บาท หากคุณซื้อครั้งเดียวต้นทุนของคุณจะอยู่ที่ 100 บาท โดยใช้เงินลงทุน 100,000 บาท แต่หากคุณเลือกซื้อหุ้นแบบ DCA โดยแบ่งเงินออกเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 50,000 บาท
ในครั้งที่ 1 เมื่อราคาหุ้นบริษัท A อยู่ที่ 100 บาท คุณจะได้หุ้นจำนวน 500 หุ้น และครั้งที่ 2 เมื่อหุ้นบริษัท A ลดลงมาที่ 70 บาท คุณจะได้หุ้นบริษัท A ที่จำนวน 714 หุ้น ด้วยจำนวนเงินเท่าเดิม ดังนั้นแล้ว จำนวนหุ้นที่คุณได้ทั้งหมดจะอยู่ที่ 1,214 หุ้น ซึ่งจะมากกว่า 1,000 หุ้นที่ซื้อในครั้งเดียว
กลยุทธ์แบบ DCA ไม่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในจำนวนเงินมหาศาล สำหรับการลงทุนในครั้งเดียว และที่สำคัญคือ กลยุทธ์แบบ DCA ไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ Forex แบบ Day Trade เนื่องจากเทรดเดอร์ประเภทนี้ต้องอาศัยการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค โดยเป็นการลงทุนที่เน้นการเก็งกำไรระยะสั้น ๆ ทำให้มีความเสี่ยงในการลงทุนที่มากขึ้น ซึ่งไม่เหมาะกับกลยุทธ์แบบ DCA ที่จะเน้นถึงการลงทุนที่มีความมั่นคงในระยะยาว
ประโยชน์ของการลงทุนแบบ DCA สามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ข้อ ดังต่อไปนี้
DCA เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มลงทุนเป็นครั้งแรกหรือมนุษย์เงินเดือนที่ยังไม่มีเงินทุนมากพอที่จะลงทุนในปริมาณมาก ๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ซับซ้อน
DCA (Dollar-Cost Averaging) เป็นการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุนจากการซื้อสินทรัพย์ในปริมาณที่เท่า ๆ กัน ในทุก ๆ เดือน ส่วน VA (Value Averaging) เป็นการลงทุนถัวเฉลี่ยที่ต่อยอดมาจาก DCA แต่จะเน้นถึงผลลัพธ์ของพอร์ตการลงทุนควบคู่ไปด้วย
DCA มีประโยชน์ในเรื่องการกระจายความเสี่ยงของราคาสินทรัพย์ เนื่องจากเป็นการถัวเฉลี่ยต้นทุนที่สม่ำเสมอในทุก ๆ เดือน
จากที่กล่าวไปข้างต้น สรุปได้ว่า DCA คืออะไร? มีกลยุทธ์ที่สำคัญอย่างไรต่อนักลงทุน ถือเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นหนึ่งในวิธี Money Management ที่สามารถลงมือทำได้ง่าย ขอเพียงแค่คุณลงทุนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพราะเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยสร้างระเบียบวินัยและสามารถกระจายความเสี่ยงได้ดีอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม DCA เป็นเพียงหนึ่งในวิธีการลงทุนที่น่าสนใจ แต่ไม่ได้การันตีว่า คุณจะสามารถได้ผลตอบแทน 100% เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ ดังนั้นแล้ว ก่อนเลือกซื้อสินทรัพย์ทุกครั้ง คุณควรวางแผนและเลือกสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มในการเติบโตที่ดีในอนาคต และควรหาสินทรัพย์อื่น ๆ เพื่อสำรองการลงทุนไว้ เพราะการลงทุนที่ดีนั้น คือ การลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย โดยจะต้องสอดคล้องกับเป้าหมายและระยะเวลาในการลงทุนของนักลงทุนแต่ละคน
------------------------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้
อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกที่นี่
อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM