หากคุณกำลังเริ่มต้นเทรด Forex และเปิดเข้ามาอ่านบทความนี้แสดงว่า คุณมาถูกทางแล้วครับ เพราะเราจะพาไปทำความรู้จักกับ Lot Size หรือ Lot คำศัพท์พื้นฐานที่สำคัญในการเทรด Forex เพราะหากคุณเลือก Lot Size ในการเทรดที่ไม่เหมาะสมก็อาจจะส่งผลต่อการลงทุนของคุณในระยะยาว บทความนี้จึงจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Lot Size รับรองครับว่า หากคุณอ่านบทความนี้จบแล้วจะเข้าใจ Lot Size อย่างถ่องแท้แน่นอน!
*คำเตือน บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับ Lot Size เท่านั้น ไม่ถือเป็นการแนะนำในการลงทุนหรือการเทรดแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงให้ดีก่อนเริ่มทำการลงทุน
Lot Size (Lot) คืออะไร? |
Lot Size หรือที่เราคุ้นเคยกันดีกับคำว่า Lot ในตลาด Forex นั้น คือ ขนาดของปริมาณการซื้อขายของคู่สกุลเงินในการเทรดแต่ละครั้ง ซึ่ง Lot Size ก็จะแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามขนาดของ Lot แต่โดยทั่วไปจะใช้ Lot Size ในการเทรดอยู่ที่ 1 Standard Lot ดังนั้น Lot ในการเทรด Forex จึงหมายถึงหน่วยของสินทรัพย์ที่เทรดเดอร์ทำการเทรดในแต่ละครั้งครับ
Lot กับ Lot Size คือ สิ่งเดียวกันเป็นหน่วยที่ใช้วัดขนาดสัญญาในตลาด Forex แต่บางครั้งอาจจะเรียกสั้น ๆ ว่า Lot หรือเรียกเต็ม ๆ ว่า Lot Size นั่นเอง
ประเภทของ Lot Size |
ประเภทของ Lot Size จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ตามขนาดในการซื้อขาย ดังนี้
ประเภท Lot Forex |
ขนาดสัญญา (Contract Size) |
มูลค่า (ต่อการเคลื่อนไหว 1 Pip) |
Standard Lot Size |
100,000 Units |
10 USD |
Mini Lot Size |
10,000 Units |
1 USD |
Micro Lot Size |
1,000 Units |
0.1 USD |
Nano Lot Size |
100 Units |
0.01 USD |
รู้หรือไม่? โดยปกติแล้ว Lot ในบัญชี Standard จะมีขนาดสัญญา 100,000 Units และบัญชี Mini จะมี 10,000 Units แต่บัญชี Mini ของบางโบรกเกอร์ก็จะมี 100,000 Units ซึ่งตัวเลขจำนวน Units เหล่านี้เราเรียกมันว่า Contract Size หรือ ขนาดของสัญญา ครับ
ความสำคัญของ Lot Size ต่อการเทรด Forex |
Lot Size มีความสำคัญต่อการเทรด Forex มากครับ เพราะ Lot Size ที่เทรดเดอร์เลือกใช้จะมีผลต่อกำไรและความเสี่ยงในการลงทุนโดยตรงครับ กล่าวคือ หากเทรดเดอร์เลือกใช้ปริมาณ Lot Size ที่ Standard Lot Size จะทำให้เทรดเดอร์มีความเสี่ยงและโอกาสในการทำกำไรมากกว่าการที่เลือกใช้ Micro Lot Size ครับ เพราะเมื่อเปรียบเทียบ Contract Size ของ Standard Lot Size (100,000 Unit) กับ Micro Lot Size (1,000 Unit) จะเห็นได้ว่า Standard Lot Size มีขนาดมากกว่าถึง 100 เท่า ซึ่งหมายความว่า หากราคาตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับที่เทรดเดอร์คาดการณ์ไว้ การขาดทุนที่เกิดขึ้นจาก Standard Lot Size ก็จะมากกว่า Micro Lot Size ถึง 100 เท่า ในทางกลับกันหากตลาดเป็นไปตามการคาดการณ์ของเทรดเดอร์ผลกำไรที่เทรดเดอร์ได้รับก็จะมากกว่าเท่าตัวเช่นกันครับ
Lot Size คำนวณยังไง? |
การคำนวณ Lot Size ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่เทรดเดอร์ไม่ควรมองข้าม เพราะการคำนวณ Lot Size จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถบริหารความเสี่ยงในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว โดยเทรดเดอร์สามารถคำนวณ Lot Size ได้ตามสูตรต่อไปนี้
Lot Size = (ยอดเงินในบัญชี x ความเสี่ยงที่รับได้ (%) / (Stop Loss (Pips) x มูลค่า 1 Pips)
ยอดเงินในบัญชี คือ ยอดเงินในบัญชีเทรดของคุณ (Equity)
ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ คือ เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่เทรดเดอร์สามารถรับได้ในการเทรดแต่ละครั้ง โดยปกติจะอยู่ที่ 1-2%
Stop Loss คือ ระยะระหว่างราคาที่เปิดออเดอร์กับราคาที่ตั้ง Stop Loss ไว้
Pip Value คือ มูลค่าของแต่ละ Pip ที่กำลังทำการซื้อขาย
หากเทรดเดอร์มีเงินในบัญชีทั้งหมด $20,000 และตั้งความเสี่ยงที่ยอมรับได้ต่อการเทรดอยู่ที่ 2% ตั้ง Stop Loss ที่ 40 pips กำหนดให้คู่เงิน EUR/USD มีมูลค่า $10 ต่อ 1 pip ใน Standard Lot จะสามารถคำนวณหา Lot Size ได้ ดังนี้
$20,000 x 2% / 40 pips x $10 = 1.0 Lots |
ดังนั้น เทรดเดอร์ควรเทรดที่ขนาด Lot Size 1.0 Lots และหากเทรดเดอร์ขาดทุนเต็มที่ (ที่จุด Stop Loss 40 pips) เท่ากับว่าเทรดเดอร์จะขาดทุน $400 (ยอดเงินในบัญชี x ความเสี่ยงที่ยอมรับได้) ซึ่งเป็น 2% ของพอร์ต
คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับเทรดเดอร์ที่เป็นมือใหม่แนะนำให้เทรด Lot Size ที่มีขนาดเล็ก ๆ ก่อน เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนในจำนวนมหาศาล เนื่องจาก Lot Size ที่มีขนาดเล็กจะส่งผลเพียงเล็กน้อยต่อจำนวนเงินที่เสียไปหากคุณคาดการณ์ผิด เมื่อคุณมีความมั่นใจและประสบการณ์ในการเทรดมากขึ้นแล้ว คุณสามารถค่อยๆ เพิ่มขนาด Lot Size ได้ครับ |
ความสัมพันธ์ของ Lot Size, Leverage และ Margin |
Lot Size, Leverage และ Margin เป็นองค์ประกอบสำคัญในการเทรด Forex ที่มีความเกี่ยวข้องกันครับ หากอธิบายง่าย ๆ คือ Lot Size เป็นขนาดของการเทรด ส่วน Leverage คือ อัตราคูณที่โบรกเกอร์ให้เรายืมมาเทรด และ Margin คือ เงินประกันที่เราต้องวางไว้กับโบรกเกอร์
ดังนั้น ความสัมพันธ์ของ Lot Size, Leverage และ Margin ก็คือ หากเราใช้ Leverage สูง จะทำให้ใช้ Margin ในการเปิดออเดอร์ต่ำลง ซึ่งทำให้เราสามารถเปิดการเทรดได้หลายตำแหน่งมากขึ้นด้วยเงินทุนเท่าเดิม แต่ในทางกลับกัน หากเราใช้ Leverage ต่ำ จะทำให้ต้องใช้ Margin ในการเปิดออเดอร์สูงขึ้น ทำให้จำนวนการเปิดออเดอร์จะถูกจำกัดจาก Margin ที่เราใช้ไป อย่างไรก็ตาม การเลือกขนาด Lot Size ควรพิจารณาจากเงินทุนที่มี และไม่ควรเพิ่ม Lot Size เพียงเพราะมี Leverage สูงหรือใช้ Margin ต่ำ เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนที่มากเกินไปครับ
*Leverage คืออะไร ? ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Leverage ให้มากยิ่งขึ้นที่ Leverage คืออะไร? |
Bid Ask และ Spread คืออะไร ? นักลงทุนมือใหม่จำเป็นต้องรู้
ทำความรู้จัก Stop Out คืออะไร? เสี่ยงล้างพอร์ตจริงไหม
Pips และ Points คืออะไร? ในตลาด Forex
ภาษี Forex 101: แนวทางการคำนวณภาษีและยื่นภาษีสำหรับเทรดเดอร์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Lot Size |
➢ Lot ย่อมาจากคำว่า Allotment ซึ่งแปลว่า การจัดสรรส่วนแบ่ง ในตลาด Forex เลยใช้คำว่า Lot มากำหนดขนาดในการซื้อขายสกุลเงินครับ
➢ คุณสามารถคำนวณ Lot Size ได้ตามสูตรคำนวณ Lot Size = (ยอดเงินในบัญชี x ความเสี่ยงที่รับได้ (%) / (Stop Loss (Pips) x มูลค่า 1 Pips) หรือ คำนวณผ่าน โปรแกรมคำนวณ Lot Size
➢ สำหรับมือใหม่แนะนำให้เริ่มต้นใช้ Lot Size ในขนาดที่เล็ก เพื่อจำกัดความเสี่ยงและเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดไปก่อนครับ และควรเลือกใช้ Lot Size ที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในการเทรดไม่เกิน 1-2% ของพอร์ต เพื่อการเทรดในระยะยาวและรองรับการขาดทุนที่อาจจะขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ
➢ เพราะการเลือกใช้ขนาด Lot Size ที่ใหญ่เกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนที่มากขึ้นและหากจัดการความเสี่ยงได้ไม่ดีพออาจจะนำไปสู่การเกิด Margin Call ได้ในที่สุดครับ
สรุปเกี่ยวกับ Lot Size |
Lot Size เป็นหน่วยมาตรฐานที่ใช้กำหนดขนาดของการเทรดในแต่ละครั้งในตลาด Forex ซึ่ง Lot Size จะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท โดยแต่ละประเภทก็จะมี Contract Size ที่แตกต่างกันไปครับ ในการเทรด Lot Size จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นตัวกำหนดมูลค่าในการลงทุนและระดับความเสี่ยงในแต่ละออเดอร์ การเลือก Lot Size ที่เหมาะสมจะส่งผลดีโดยตรงต่อตัวเทรดเดอร์เองครับ
ดังนั้น หากเทรดเดอร์เลือกใช้ Lot Size ในการเทรดที่เหมาะสมควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงในการเทรด หรือเลือกใช้โบรกเกอร์สเปรดต่ำ ก็ถือเป็นตัวช่วยให้เทรดเดอร์เพิ่มโอกาสในการทำกำไรและส่งผลดีต่อการลงทุนในระยะยาวได้ครับ
------------------------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้
อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกทีนี่
อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM