ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง ทำให้เหล่าเทรดเดอร์ต้องหาเทคนิคต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการเทรดให้มีประสิทธิภาพที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน, การใช้ Indicator, การใช้ Price Action หรือแม้แต่การดู Candlestick เป็นต้น
แต่ในบทความนี้ ทีมงาน Fxbrokerscam จะพาทุกท่านมารู้จักกับกลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงในตลาด Forex ที่เป็นที่นิยมไม่แพ้กันนั่นก็คือ Hedging แล้ว Hedging คืออะไร? ใช้ได้ผลในตลาด Forex จริงหรือไม่? บทความนี้มีคำตอบ
Hedging คือ การป้องกันความเสี่ยงจากการสูญเสียเงินในพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ เพื่อให้เหลือความเสี่ยงน้อยที่สุด ซึ่งกลยุทธ์ Hedging นี้ เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มเทรดเดอร์ครับ เพราะการ Hedging เป็นการเปิดออเดอร์ได้ทั้ง 2 ทาง คือ สามารถเปิด Buy และ Sell พร้อม ๆ กัน ในช่วงเวลาเดียวกันหรือเวลาต่างกันได้ เพื่อป้องกันความเสียหายในกรณีที่เทรดเดอร์เทรดสวนทางกับตลาด ซึ่งการเปิดออเดอร์ในฝั่งตรงข้ามกันนั้น จะช่วยชดเชยความเสียหายนั่นเอง
วิธีการใช้ Hedging Strategy สามารถทำได้หลากหลายเทคนิค โดยมี 3 เทคนิคที่เป็นที่นิยม ซึ่งมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
การ Arbitrage เป็นการทำกำไรจากช่องว่างของตลาดทั้ง 2 ตลาด โดยการซื้อขายสินทรัพย์ประเภทเดียวกันหรือเรียกง่าย ๆ ว่า การซื้อสินทรัพย์ในตลาดหนึ่ง แล้วนำไปขายในตลาดอื่นแทน
การกระจายการลงทุน คือ การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลาย ๆ ประเภท เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดีกว่า
การถือเงินสดสำรอง คือ การนำเงินออกมาลงทุนบางส่วนและเก็บเงินลงทุนที่เหลือไว้เป็นเงินสด เพื่อป้องกันการขาดทุน
Hedging สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ดังต่อไปนี้
Complex Hedging คือ การเทรดคู่สกุลเงิน 2 คู่ ที่มีความสัมพันธ์กัน โดยเป็นวิธีการเปิดออเดอร์ในทิศทางตรงกันข้ามของ 2 คู่สกุลเงินนั้น หากคู่สกุลเงินในออเดอร์ใดออเดอร์หนึ่งเริ่มมีแนวโน้มขาดทุน อีกออเดอร์หนึ่งก็จะทำหน้าที่หักล้างซึ่งกันและกันนั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น คุณเปิดออเดอร์ Buy GBPUSD และเปิดออเดอร์ Sell EURUSD ในขนาด Lot ที่เท่ากัน หากกราฟวิ่งเข้าทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งนั้น คุณจะมีโอกาสทำกำไรได้ เนื่องจากออเดอร์ทั้ง 2 ออเดอร์มีการชดเชยความเสียหายให้แก่กันและกัน ซึ่งคุณจะได้กำไรมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับขนาด Lot และเงินทุนที่คุณใช้ในการเทรดครับ
อย่างไรก็ตาม หลักการสำคัญของ Complex Hedging คือ เทรดเดอร์ต้องปิดออเดอร์ให้ถูกจังหวะ และต้องดำเนินการพร้อมกันทันที ไม่อย่างนั้นเทรดเดอร์จะมีโอกาสขาดทุนจากช่องว่างในตลาดเช่นเดียวกัน ดังนั้นแล้ว เทรดเดอร์ต้องหาจังหวะในการปิดออเดอร์ให้เหมาะสม เพื่อให้กลยุทธ์ Hedging มีประสิทธิภาพมากที่สุดครับ
Direct Hedging คือ การเปิดออเดอร์ในทิศทางตรงข้ามกัน โดยใช้คู่สกุลเงินเดียวกัน สามารถทำได้ 2 แบบ คือ 1. การ Hedging ในเวลาเดียวกันและ 2. การ Hedging ในเวลาต่างกัน ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้ก็จะเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถแยกรายละเอียดได้ ดังต่อไปนี้
การเทรดด้วยการใช้เทคนิค Hedging สามารถทำได้ผลจริงครับ หากคุณรอจับจังหวะของตลาดได้ถูกต้อง เพราะการเปิดออเดอร์หลาย ๆ ออเดอร์พร้อมกันเป็นการเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นที่นิยมในการเทรดอื่น ๆ อีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น Options ที่จะนิยมใช้ในการป้องกันความเสี่ยงระยะสั้น ๆ ที่ไม่มีวันหมดอายุสัญญาที่เฉพาะเจาะจงหรือจะหมดอายุสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้และ Forward Currency Contracts ที่นิยมใช้ในการป้องกันความเสี่ยง เพราะเป็นการซื้อขายสกุลเงินล่วงหน้าที่สามารถแก้ไขวันหมดอายุของสัญญาได้นั่นเอง
อย่างไรก็ดี การใช้เทคนิคการป้องกันความเสี่ยงนี้ ไม่ได้การันตีว่าจะทำกำไรได้ 100% เนื่องจากเป็นเทคนิคที่จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญและจำนวนเงินทุนที่เพิ่มมากขึ้น เพราะหากไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอ อาจจะทำให้ขาดทุนได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น Hedging จึงเหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์หรือเทรดเดอร์ที่มีทุนสำรองเยอะ
ประโยชน์ของ Hedging |
ข้อจำกัดของ Hedging |
|
|
การ Hedging จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุนของออเดอร์ที่อยู่ในสภาวะตลาดขาลงได้
เทคนิคการป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุนสามารถทำได้ 3 เทคนิคหลัก ได้แก่ Arbitrage, การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย และการถือเงินสดไว้สำรอง
Hedging Forex คือ การป้องกันความเสี่ยงจากการสูญเสียเงินในพอร์ตการลงทุนของเทรดเดอร์ เพื่อลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด
จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า กลยุทธ์ Hedging สามารถป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนได้ ในกรณีที่ตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับการคาดการณ์ของเทรดเดอร์ แต่อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้ไม่ได้การันตีว่า จะสามารถทำกำไรได้ 100% ครับ เนื่องจากต้องอาศัยประสบการณ์ในการเทรดและใช้ต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นการเปิดออเดอร์หลายครั้ง ทำให้จะมีค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังต้องอาศัยการรอจังหวะในการเปิดออเดอร์อีกด้วย ดังนั้น หากไม่มีประสบการณ์ที่มากพอก็อาจจะมีโอกาสขาดทุนได้เช่นเดียวกัน
ที่มา : Thaiforexreview และ Mtrading.com
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม :
ความเสี่ยงในการลงทุนมีอะไรบ้าง? นักลงทุนมือใหม่ควรรู้!
3 อินดิเคเตอร์ยอดนิยมที่ใช้วัดความผันผวนในตลาด Forex
DCA คืออะไร? มีกลยุทธ์ที่สำคัญอย่างไรต่อนักลงทุน
5 กลยุทธ์วางแผนการลงทุน เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง!
Arbitrage ในตลาด Forex ที่ฟังเหมือนดูดี แต่ทำไมเทรดเดอร์ไม่นิยม ?
------------------------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่ง ดังต่อไปนี้
อัพเดตข่าวสารการลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมที่น่าใช้ : คลิกที่นี่
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ที่ควรระวัง : คลิกที่นี่
อ่านบทความเพิ่มเติม : FXBROKERSCAM